คนในสังคมมักจะวัดคุณค่าของคนจากรูปลักษณ์ภายนอก พระเยซูตำหนิพวกฟาริสีอย่างตรงไปตรงมาว่า เป็นคนที่ดีแต่ภายนอก (แสร้งทำ) แต่การกระทำตรงกันข้ามกับคำสอน (ไร้ความเมตตา) ซึ่งการกระทำเช่นนี้ทำให้คนในสังคมเลียนแบบและทำตาม พระเยซูได้ยกตัวอย่างจริงที่เห็นจากการถวายในพระวิหารมาสอนในเรื่องนี้

Q1  อะไรคือความแตกต่างในการถวายของ “คนมั่งมี” และ “หญิงม่าย”? (ดูข้อ 43-44 ประกอบ)
Q2  คุณจะนำแบบอย่างของ “คนมั่งมี” และ “หญิงม่าย” มาเป็นบทเรียนใช้ในการดำเนินชีวิตอย่างไร?

มีการพยายามจับผิดพระเยซูในทุกๆ ด้าน แม้แต่ด้านวงศ์ตระกูลของพระเยซู เพราะในคำพยากรณ์ “พระคริสต์” ต้องเกิดมาจากวงศ์วานของดาวิด แต่คำตอบของพระเยซูกลับทำให้
ธรรมาจารย์ประหลาดใจ เพราะ

Q1  พระเยซูทรงเป็นคนที่เกิดในตระกูลของดาวิดอย่างแน่นอน ซึ่งมัทธิวได้บันทึกถึงเรื่องนี้ไว้ในมัทธิว 1:1-17 แต่ในพระคัมภีร์ตอนนี้ “พระคริสต์” ไม่ได้เป็นเพียงคนที่เกิดมาในวงศ์วานของดาวิดเท่านั้น แต่ยังเป็นมากกว่านั้นอีกคือ? (ดูข้อ 37ประกอบ)
Q2  พระเยซูไม่เพียงแต่เป็น “พระผู้ช่วยให้รอด” เท่านั้น แต่ยังเป็น “องค์พระผู้เป็นเจ้า จอมเจ้านายเหนือชีวิต” ของผู้ที่เชื่อทุกคนด้วย คุณได้ให้พระเยซูเป็น “องค์พระผู้เป็นเจ้า จอมเจ้านายเหนือชีวิต” อยู่เหนือชีวิตของคุณมากน้อยแค่ไหน?

หลังจากคำถามของสะดูดี พระเยซูทรงเผชิญหน้ากับคำถามของธรรมาจารย์ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีความรู้พระคัมภีร์เป็นอย่างดี โดยคำถามที่ธรรมจารย์ถามเป็นคำถามที่ครอบคลุมธรรมบัญญัติทั้งหมด เพราะธรรมาจารย์ถามว่า “ธรรมบัญญัติข้อใดเป็นเอกเป็นใหญ่กว่าธรรมบัญญัติทั้งปวง” (ข้อ 28)

Q1  พระเยซูได้ตอบคำถามนี้โดยสรุปธรรมบัญญัติทั้งหมดเป็น 2 ข้อคือ? (ดูข้อ 29-31 ประกอบ)
Q2  ธรรมบัญญัติที่เป็นเอกเป็นใหญ่ทั้ง 2 ข้อที่พระเยซูได้สรุปไว้ จะเป็นจริงในชีวิตของคุณได้อย่างไร?

กรุงเยรูซาเล็มเป็นที่รวมของผู้รู้มากมาย และหนึ่งในนั้นคือ สะดูสี ซึ่งเป็นพวกที่ไม่เชื่อในเรื่องการเป็นขึ้นมาจากความตาย สะดูสีเป็นเชื้อสายของครอบครัวปุโรหิต หรือเชื้อพระวงศ์ มีฐานะดีและมีอิทธิพลในสังคม เป็นคนกลุ่มใหญ่ของสภาแซนฮีเดน คำถามของสะดูสีเป็นคำถามที่ต้องการให้ผู้ถูกถามคือ พระเยซูตอบว่า การเป็นขึ้นมาจากตายไม่มี เพราะคงจะงายกว่าที่จะคิดว่า หญิงที่เป็นภรรยาของชายเจ็ดคน เมื่อเป็นขึ้นมาจากความตายแล้วจะเป็นภรรยาของใคร

Q1  พระเยซูตอบสนองต่อการทดสอบของสะดูสีอย่างไร? (ดูข้อ 24-25 ประกอบ)
Q2  พระเยซูยืนยันว่า “พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าของคนเป็น” (ข้อ 27) เพื่อจะบอกว่า ทุกคนที่ตายจะเป็นขึ้นมา คำพูดนี้เตือนสติคุณอย่างไรบ้างในขณะที่ดำเนินชีวิตอยู่ในปัจจุบันนี้ และเตรียมคุณอย่างไรสำหรับการจากโลกนี้ในวันข้างหน้า?

พวกฟาริสีไม่ละความพยายามที่จะจับผิดพระเยซู คราวนี้ร่วมมือกับพวกของเฮโรด โดยใช้คำถามเกี่ยวกับการเสียภาษีให้กับซีซาร์มาเป็นเครื่องมือ โดยถามว่า เรา (คนยิว) ควรจะเสียภาษีให้ซีซาร์หรือไม่ ซึ่งเป็นคำถามที่ยากมาก เพราะถ้าพระเยซูตอบว่า “ไม่ควรเสียภาษี” ก็จะถูกจับเพราะต่อต้านโรม หรือถ้าตอบว่า “ควรเสียภาษี” ก็จะถูกต่อต้านจากคนยิว เพราะถือว่า เข้าข้างศัตรู

Q1  พระเยซูทรงตอบคำถามที่ยากนี้อย่างไร? (ดูข้อ 15-17 ประกอบ)
Q2  วันนี้คุณได้ทำหน้าที่ในฐานะของคนไทยด้วยการเสียภาษีอย่างไร? และในฐานะของคริสเตียน คุณได้ถวายทรัพย์ด้วยท่าทีอย่างไร?

3270/5052