จากข้อ 11-13 บอกความจริงกับเราว่า ผู้คนที่ติดตามพระเยซูในเวลานั้น โดยเฉพาะพวกฟาริสีมีความปรารถนาอย่างหนึ่งคือ การได้เห็น “หมายสำคัญ” เห็นการอัศจรรย์ เห็นฤทธิเดชของพระเจ้า อยากเห็นอะไรที่น่าตื่นเต้น แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขาลืมไปคือ การได้รู้จักว่า “พระเยซู” คือ “หมายสำคัญของพระเจ้า”

Q1  พระเยซูทรงทำหมายสำคัญด้วยการเลี้ยงคน 4,000 คน ด้วยขนมปัง 7 ก้อน ทุกคนได้ทานจนอิ่ม และยังมีขนมปังเหลือถึง 7 ตะกร้า อะไรคือแรงจูงใจที่ทำให้พระเยซูทรงกระทำหมายสำคัญนี้? (ดูข้อ 2-3 ประกอบ)
Q2  คุณกำลังมองหาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับ “หมายสำคัญ” ของพระเจ้า หรือ “ความสัมพันธ์” ส่วนตัวกับพระเจ้า?

คำพูดเสียดสีคือ คำพูดที่ว่าเปรียบเปรย ว่ากระทบกระทั่ง ว่าเหน็บแนม โดยมุ่งหวังที่จะให้เกิดการกระทบกระเทือนความรู้สึกและจิตใจ เป็นคำพูดที่ทำลายความสัมพันธ์และก่อให้เกิดความขมขื่นใจแก่ผู้ฟัง เป็นคำพูดที่ทำให้เกิดศัตรู   ซึ่งบ้านเป็นสถานที่ของคนที่รักและผูกพันมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ไม่ใช่สถานที่ศัตรูมาอยู่ร่วมกันเพื่อจะทำลายและห้ำหั่นกัน

Q1  คุณคิดว่า “คำพูดส่อเสียด” และ “ความชั่วทั้งปวง” “การอุบายต่างๆ” “ความไม่จริงใจ” “ความริษยา” มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร จึงทำให้เปโตรรวม “คำพูดส่อเสียด” ไว้กับ “คำเหล่านี้” ?
Q2  เปโตรได้แนะนำวิธีการแก้ไขในเรื่องคำพูดส่อเสียดไว้อย่างไร? และคุณจะนำไปใช้ในครอบครัวของคุณอย่างไร? (ดูข้อ 2-3 ประกอบ)

บ้านเป็นที่พักที่ดีที่สุดสำหรับการหยุดพัก โดยเฉพาะในยามที่ต้องเผชิญหน้ากับปัญหา หรือวิกฤตในชีวิต เพราะบ้านเป็นสถานที่เราทุก ๆ คนต่างคาดหวังว่า จะได้รับความเข้าใจ การยอมรับ และที่สำคัญได้รับคำปลอบโยน เพื่อจะสามารถยืนขึ้นและต่อสู้กับชีวิตต่อไป เพราะการปลอบโยน เป็นการแสดงออกถึงความรัก ความห่วงใยที่มีให้แก่กันและกัน

Q1  คำว่า “ความสงัดในป่าช้า” “เท้าของข้าพลาด” “ความกังวลใจ” “ความอุปถัมภ์” “ความรักมั่นคง” “การเล้าโลม” “ชื่นบาน” ช่วยให้เราเห็นถึงความสำคัญและหลักการในการปลอบโยนอย่างไร?
Q2  คิดถึงคนในครอบครัวของคุณ/คนในคริสตจักรของคุณตอนนี้ว่า มีใครบ้างไหมที่ต้องการคำปลอบโยน คุณจะช่วยให้คนเหล่านั้นมีจิตใจที่ “ชื่นบาน” ได้อย่างไร?

พจนานุกรมได้นิยามความหมายของคำว่า “หยาบคาย” ว่าหมายถึง “คำที่ไม่สุภาพ” ซึ่งความหยาบคายสามารถแสดงออกได้ทั้งคำพูดและการกระทำ เช่น การด่า การชี้หน้า การตะโกนใส่หน้า การส่งเสียงดังแบบไม่มีมารยาท การใช้คำดูถูกดูหมิ่น คำพูดที่ก้าวร้าว คำพูดที่ทำให้เกิดความรู้สึกเจ็บแค้น เกลียดชังภายในจิตใจ และแน่นอนว่า มีครอบครัวไม่น้อยที่ต้องรับผลกระทบเพราะคำหยาบคายที่เกิดขึ้นในครอบครัว ซึ่งเป็นสถานที่น่าจะเต็มไปด้วยความรัก ความปลอดภัย และความอบอุ่น

อย่าให้คำหยาบคายออกมาจากปากท่านเลย
แต่จงกล่าวคำที่ดีและเป็นประโยชน์ให้เหมาะสมกับความต้องการ
เพื่อจะได้เป็นคุณแก่คนที่ได้ยินได้ฟัง

Q1  อ่านพระคัมภีร์ข้อนี้ช้า ๆ 2-3 รอบ จนจำเนื้อหาทั้งหมดได้ พระคัมภีร์ตอนนี้ให้หลักการอย่างไรในการจัดการกับคำหยาบคาย?
Q2  อะไรคือ “คำหยาบคาย” ที่คุณควรจะกำจัดมันออกไปจากครอบครัวของคุณ? และอะไรคือ “คำที่ดี” “คำที่เป็นประโยชน์” ที่คุณควรจะพูดให้มากขึ้นในครอบครัวของคุณ

มีสำนวนไทยอันหนึ่งว่า “ติเพื่อก่อ” หมายถึง การพูดตำหนิติเตียน เพื่อหวังว่า ผู้ฟังจะนำสิ่งที่พูดไปแก้ไข แต่ในความเป็นจริง เรากลับค้นพบว่า คำตำหนิติเตียนไม่เคยให้ประโยชน์แก่ใคร มีแต่ทำร้าย เพราะไม่มีใครชอบถูกตำหนิติเตียน ถูกวิพากษ์วิจารณ์ หรือถูกมองในแง่ร้าย และไม่มีใครชอบใจเมื่อมีคนมาชี้นิ้วกล่าวโทษ ดังนั้นลองเปลี่ยนคำตำหนิให้เป็นข้อแนะนำน่าจะดีกว่า

Q1  คำว่า “ตาบอดนำทางคนตาบอด” “ผงในตา” “เขี่ย” “ไม้ทั้งท่อน” “ชัก” ช่วยให้เราเห็นถึงท่าทีและหลักการในการเปลี่ยนคำตำหนิให้เป็นคำแนะนำได้อย่างไร?
Q2  อะไรคือ “ไม้ทั้งท่อนในตา” ของคุณที่จะต้องเอาออก เพื่อคุณจะสามารถเปลี่ยนคำตำหนิเป็นคำแนะนำให้กับคนในครอบครัวของคุณ?

3295/5053