วันพุธที่ 15 เมษายน ลูกา 6:39-42 “คำตำหนิ”
มีสำนวนไทยอันหนึ่งว่า “ติเพื่อก่อ” หมายถึง การพูดตำหนิติเตียน เพื่อหวังว่า ผู้ฟังจะนำสิ่งที่พูดไปแก้ไข แต่ในความเป็นจริง เรากลับค้นพบว่า คำตำหนิติเตียนไม่เคยให้ประโยชน์แก่ใคร มีแต่ทำร้าย เพราะไม่มีใครชอบถูกตำหนิติเตียน ถูกวิพากษ์วิจารณ์ หรือถูกมองในแง่ร้าย และไม่มีใครชอบใจเมื่อมีคนมาชี้นิ้วกล่าวโทษ ดังนั้นลองเปลี่ยนคำตำหนิให้เป็นข้อแนะนำน่าจะดีกว่า
Q1 คำว่า “ตาบอดนำทางคนตาบอด” “ผงในตา” “เขี่ย” “ไม้ทั้งท่อน” “ชัก” ช่วยให้เราเห็นถึงท่าทีและหลักการในการเปลี่ยนคำตำหนิให้เป็นคำแนะนำได้อย่างไร?
Q2 อะไรคือ “ไม้ทั้งท่อนในตา” ของคุณที่จะต้องเอาออก เพื่อคุณจะสามารถเปลี่ยนคำตำหนิเป็นคำแนะนำให้กับคนในครอบครัวของคุณ?
วันอังคารที่ 14 เมษายน สุภาษิต 31:27-31 “คำชมเชย”
ลักษณะการเลี้ยงดูเด็กแบบไทยๆ มักไม่เน้นการชมเชย ส่วนใหญ่มักใช้การตำหนิ หรือจับผิดในสิ่งที่เด็กทำ เมื่อถามว่าเวลาที่เด็กทำอะไรได้ดีเคยชมเชยบ้างหรือไม่ พ่อแม่ส่วนใหญ่จะตอบว่าไม่ค่อยได้ชม เหตุผลเพราะกลัวว่าเด็กจะเหลิงหรือได้ใจ หรือถ้าชมก็จะเป็นลักษณะชมแบบเหน็บแนมหรือพูดดักไว้ก่อน แต่ในความจริงคำชมเชยมีคำที่มีพลัง และช่วยให้คนเรามีกำลังใจที่จะกระทำสิ่งดี ๆ เหล่านั้นต่อไป
Q1 คำว่า “ดูแลการงาน” “ไม่ชุบมือเปิป” “เลิศกว่าเขา” “ยำเกรงพระเจ้า” “ผลแห่งมือ” “การงานของเธอ” ช่วยให้หลักการอย่างไรบ้างในการที่จะชมเชยใครสักคน?
Q2 คิดถึง “ดูแลการงาน” “ไม่ชุบมือเปิป” “เลิศกว่าเขา” “ยำเกรงพระเจ้า” “ผลแห่งมือ” “การงานของเธอ” ที่คนในครอบครัวของคุณได้กระทำให้คุณ ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ /คุณแม่/ สามี/ ภรรยา/ หรือลูกของคุณ และหาโอกาสที่จะเอ่ยคำขอบคุณ คำชมเชย บุคคลเหล่านั้นในวันนี้
วันจันทร์ที่ 13 เมษายน สุภาษิต 15:31-33 “คำเตือนสติ”
เรื่องครอบครัวเป็นเรื่องใหม่สำหรับทุก ๆ คน เพราะไม่มีใครเคยเป็น สามีหรือภรรยามาก่อน ไม่เคยเป็นพ่อหรือแม่มาก่อน ไม่มีใครเคยมีลูกมากก่อน ดังนั้นมีเรื่องราวต่าง ๆ มากมายที่เราไม่รู้เกี่ยวกับครอบครัว การได้ฟังคำเตือนสติ หรือคำทักท้วงจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับครอบครัว รวมถึงคำเตือนสติของพ่อแม่ที่มีต่อลูกก็เป็นสิ่งที่จำเป็นเช่นกัน
Q1 คำว่า “ให้ชีวิต” “ดูหมิ่น” “เข้าใจ” “ยำเกรง” “ปัญญา” “ถ่อมใจ” “เกียรติ” เกี่ยวข้องอย่างไรกับ “คำเตือนสติ”?
Q2 ถ้าคุณเป็นพ่อ/แม่ คุณจะนำพระคัมภีร์ตอนนี้ไปใช้เป็นแนวทางในการเตือนสติลูกของคุณอย่างไรบ้าง? และถ้าคุณเป็นลูก คุณจะนำพระคัมภีร์ตอนนี้ไปใช้เป็นแนวทางในการรับคำเตือนสติจากบุคคลอื่นๆ ในครอบครัวอย่างไร?
วันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน เฉลยธรรมบัญญัติ 6:4-9 “คำสั่งสอน”
ครอบครัวเปรียบเสมือนเป็นโรงเรียนแห่งแรกของลูก พ่อแม่เป็นเสมือนคุณครูคนแรก การสื่อสารที่สำคัญอย่างหนึ่งของครอบครัวคือ “การสั่งสอน” ซึ่งถือว่า เป็นหน้าที่หลักทั้งของผู้สอน คือ พ่อแม่ และผู้เรียนคือ ลูก
Q1 พระคัมภีร์ตอนนี้สอนให้เห็นถึงท่าที และวิธีการในการสั่งสอนที่จะมีในครอบครัวอย่างไร? (ดูเรื่องท่าทีจากข้อ 5 และวิธีการจากข้อ 7-8)
Q2 คุณจะนำท่าที และวิธีการสั่งสอนที่มีอยู่ในพระคัมภีร์ตอนนี้ไปใช้ในครอบครัวของคุณอย่างไร?
วันเสาร์ที่ 11 เมษายน อิสยาห์ 42:1-9
Q1 อ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ช้าๆ 2 -3 รอบ โดยในแต่ละรอบให้หยุดพักโดยหลับตาลงสักครู่ ค่อยๆ ให้พระวจนะของพระเจ้าซึมซับลงไปในใจของเรา และเกิดความเข้าใจในความคิด ความรู้สึกของคุณ
Q2 คิดถึงสิ่งที่คุณเรียนรู้ตลอดสัปดาห์เกี่ยวกับอีสเตอร์ อธิษฐานขอบคุณพระเจ้าสำหรับสิ่งเหล่านั้น และอธิษฐานขอกำลังจากพระเจ้าในสิ่งที่พระเจ้าทรงเรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของคุณ