ถ้าหากมารซาตานไม่สามารถที่จะล่อลวงให้เรามีความสงสัยพระเจ้าได้ หรือให้เรามีจิตใจที่หันเหไปจากพระเจ้าได้ อีกสิ่งหนึ่งที่มารซาตานมักจะทำก็คือ การทำลายร่างกายของเรา การกัดกินชีวิตของเรา ด้วยการทำให้เกิดความทุกข์ยากลำบากในชีวิต เหมือน 1 เปโตร 5:8 ที่ว่า “ท่านทั้งหลายจงสงบใจจงระวังระไวให้ดี ด้วยว่าศัตรูของท่านคือมารวนเวียนอยู่รอบๆ ดุจสิงห์คำรามเที่ยวไปเสาะหาคนที่มันจะกัดกินได้” ซึ่งโยบเป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องนี้

Q1  มารซาตานได้กระทำอย่างไรกับโยบ? (ข้อ 3-7) และโยบตอบสนองอย่างไร? (ข้อ 9)
Q2  คำพูดของโยบที่ว่า “เราจะรับสิ่งดีจากพระหัตถ์ของพระเจ้า และจะไม่รับของไม่ดีบ้างหรือ” หนุนใจคุณอย่างไรที่จะยังยืนหยัดในความเชื่อ แม้ต้องเผชิญหน้ากับความทุกข์ยากลำบากก็ตาม

มารซาตานพ่ายแพ้อีกครั้ง แต่ก็ยังไม่ลดละความพยายามที่จะทดลองพระเยซู ครั้งนี้มันพาพระเยซูขึ้นไปบนภูเขาอันสูง และให้มองดูอาณาจักรต่างๆ และความรุ่งเรืองของอาณาจักรเหล่านั้น โดยสัญญาว่า จะมอบอำนาจและการปกครองนี้กับพระเยซู เพียงพระองค์ทำอย่างหนึ่งคือ…

Q1  การที่มารซาตานบอกให้ “พระเยซูกราบนมัสการตัวมัน” สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการเป็นใหญ่ของมันอย่างไร? (ดูคำตอบของพระเยซูที่ว่า “จงนมัสการและปรนนิบัติพระเจ้าแต่ผู้เดียว” ประกอบ)
Q2  บางครั้งมารซาตานอาจจะไม่สามารถชักจูงคุณให้กราบนมัสการตัวมันได้ แต่หลายครั้งมันอาจจะชักจูงคุณให้นมัสการตัวของคุณเอง ซึ่งนั้นหมายความว่า ตัวคุณเป็นใหญ่กว่าพระเจ้าที่คุณเชื่อ ทำอย่างไรที่ความคิดนี้จะอยู่ห่างจากชีวิตของคุณ?

หลังจากที่มารซาตานพ่ายแพ้ในยกแรก มันไม่ย่อท่อที่จะทดลองพระเยซูอีกครั้ง และครั้งนี้มารซาตานใช้พระวจนะของพระเจ้า ซึ่งมาจากสดุดี 91:11-12 ที่พูดถึงการปกป้องของพระเจ้าที่มีต่อชนชาติของพระเจ้า ต่อลูกของพระเจ้า และที่สำคัญต่อ พระบุตรของพระเจ้า

Q1  จากคำพูดของมารซาตานที่ว่า “เพราะพระคัมภีร์มีเขียนไว้ว่า” และคำพูดของพระเยซูที่ว่า “พระคัมภีร์มีเขียนไว้อีกว่า” สะท้อนให้เห็นถึงการบิดเบือนพระวจนะของมารซาตานอย่างไร? (พิจารณาจากคำที่ทำเป็นตัวหนา และเนื้อหาของพระคัมภีร์ที่โต้ตอบกันในข้อ 6-7 ประกอบ)
Q2  ในปัจจุบันมีคำสอนมากมายที่บอกว่า เป็นคำสอนจากพระคัมภีร์ คุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่า คำสอนเหล่านั้นเป็นคำสอนที่มาจากพระเจ้าจริงๆ และสามารถนำมาใช้ได้จริงในชีวิตของคุณ? (ดู 1 เธสะโลนิกา 5:20-22 ประกอบ)

ก่อนที่พระเยซูคริสต์จะเริ่มต้นพันธกิจประกาศข่าวประเสริฐของพระเจ้า พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทรงนำพระเยซูคริสต์เข้าไปในถิ่นทรุกันดาร และที่นั่นพระองค์ได้อดอาหารอธิษฐานเป็นเวลา 40 วัน 40 คืน และในช่วงท้ายมารซาตานได้มาทดลองพระเจ้าถึง 3 ครั้งด้วยกัน ซึ่งทำให้เรารู้จักความเป็นตัวตนของมารซาตานมากขึ้น โดยการทดลองแรก

Q1  คำถามของมารซาตานที่ว่า “ถ้าท่านเป็นพระบุตรของพระเจ้า จงสั่งก้อนหินเหล่านี้ ให้กลายเป็นพระกระยาหาร” เป็นการยั่วยุท้าทายพระเยซูคริสต์ในแง่มุมใด? (พิจารณาจากคำที่ทำเป็นตัวหนา)
Q2 พระเยซูคริสต์ทรงสามารถเอาชนะการยั่วยุท้าทายของมารซาตานมาได้อย่างไร? (ดูข้อ 4 ประกอบ) และคุณจะนำแบบอย่างของพระเยซูคริสต์ไปใช้ในชีวิตเมื่อต้องถูกยั่วยุท้าทายอย่างไร?

“การโกหก” คือ อาวุธที่สำคัญของมารซาตานในการทำให้ผู้เชื่อเกิดความสงสัยในพระเจ้า และปฏิเสธพระเจ้า โดยพระเยซูคริสต์พูดถึงมารซาตานในยอห์น 8:44 ดังนี้

“ท่านทั้งหลายมาจากพ่อของท่านคือมาร และท่านใคร่จะทำตามความปรารถนาของพ่อท่าน
มันเป็นผู้ฆ่าคนตั้งแต่ปฐมกาล และมิได้ตั้งอยู่ในสัจจะ เพราะมันไม่มีสัจจะ
เมื่อมันพูดเท็จมันก็พูดตามสันดานของมันเอง เพราะมันเป็นผู้มุสาและเป็นพ่อของการมุสา”

Q1  คำว่า “ผู้ฆ่าคน” “ไม่มีสัจจะ” “พูดเท็จ” “ตามสันดาน” และ “เป็นพ่อของการมุสา” ช่วยเราเข้าใจถึงงลักษณะของมารซาตานในแง่มุมนี้มากขึ้นอย่างไร?
Q2  ลองสำรวจชีวิตของคุณโดยเฉพาะในเรื่องของคำพูดว่า วันนี้คุณดำเนินชีวิตแบบที่มีพ่อเป็นพระเจ้า หรือ แบบที่มีพ่อเป็นมาร

3560/5059