แซมสันนับว่า เป็นหนึ่งในผู้วินิจฉัยที่มีความพิเศษ เพราะพระเจ้าทรงประทานพลังกำลังแก่ท่านอย่างมากมาย ท่านรบชนะชนชาติฟีลิสเตียหลายครั้งหลายคราว จนชาวฟีลิสเตียต้องหาทางกำจัดแซมสันผ่านการช่วยเหลือของผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อว่า นางเดลิลาห์ ซึ่งเป็นชาวเมืองโสเรก

Q1   อะไรคือสาเหตุที่ทำให้นางเดลิลาห์ สามารถหลอกลวงแซมสันได้สำเร็จ? (ดูข้อ 4, 10, 13, 15, 16 ประกอบ)
Q2  แซมสันไม่เชื่อฟังพระเจ้า เลือกที่จะอยู่กินกับผู้หญิงที่ไม่เชื่อพระเจ้า สิ่งที่ตามคือ ความหายนะทั้งต่อแซมสัน และชนชาติอิสราเอล ถ้าคุณยังไม่มีคู่พระพรและกำลังแสวงหาเรื่องนี้อยู่ คุณจะนำเรื่องของแซมสันมาใช้ในชีวิตอย่างไร? ถ้าคนที่คุณคบด้วยยังไม่ได้เป็นคริสเตียน เรื่องของแซมสันกำลังเตือนสติคุณอย่างไร?

ผู้เผยพระวจนะส่วนใหญ่ของพระเจ้ามักจะเป็นผู้ชาย แต่ในหนังสือผู้เผยพระวจนะได้บันทึกเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งว่า เป็นผู้เผยพระวจนะของพระเจ้า ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นสักเท่าไร ยิ่งกว่านั้นผู้เผยพระวจนะหญิงคนนี้ยังเป็นผู้วินิจฉัยอิสราเอลด้วย ทำให้แผ่นดินอิสราเอลพักสงบถึง 40 ปี ผู้หญิงคนนี้คือ เดโบราห์

Q1  เดโบราห์เชื่อฟังพระเจ้าทำหน้าที่ตลอดหลายปีที่อิสราเอลตกอยู่ภายใต้การข่มเหงของกษัตริย์ยาบิน (ข้อ 4-5) แต่เมื่อเธอบอกกับบาราคว่า พระเจ้าสั่งให้รวบรวมพลเพื่อทำการรบกับกษัตริย์ยาบิน และพระเจ้าจะมอบชัยชนะให้ เพราะอะไรทำให้บาราคไม่ยอมทำตาม ต้องขอให้เดโบราห์ไปด้วย และผลลัพธ์ที่ตามคือ? (ดูข้อ 3, 9, 15, 16, 21, 22 ประกอบ)
Q2  คุณคิดว่า ข้อพระคัมภีร์ที่ว่า “ดังที่มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า สิ่งที่ตาไม่เห็นหูไม่ได้ยิน และสิ่งที่มนุษย์คิดไม่ถึง คือสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงจัดเตรียมไว้สำหรับคนที่รักพระองค์” 1 โครินธ์ 2:9 จะเป็นจริงในชีวิตของคุณเหมือนที่เป็นจริงในชีวิตของเดโบราห์และยาเอลได้อย่างไร?

มิเรียมนับว่า เป็นผู้หญิงที่มีบทบาทสำคัญมากในแผนการของพระเจ้า เรื่องราวของเธอปรากฏครั้งแรกในอพยพ 2:4 ขณะที่เฝ้าดูว่าโมเสสน้องชายของเธอที่อยู่ในตะกร้าจะถูกลอยน้ำไปที่ใด และทันทีที่ธิดาฟาโรห์เก็บตะกร้าได้ มิเรียมก็เสนอตัวว่า จะหาแม่นมมาเลี้ยงทารกแทนธิดาฟาโรห์ ซึ่งผู้หญิงที่จะมาเป็นแม่นมก็คือ แม่แท้ๆ ของโมเสสนั้นเอง และในพระคัมภีร์ตอนนี้มิเรียมก็แสดงบทบาทที่สำคัญอีกครั้งหนึ่ง

Q1  อะไรคือสาเหตุสำคัญที่ทำให้มิเรียมต้องลุกขึ้นมาเป็นผู้นำผู้หญิงคนอื่นๆ ในการเต้นรำ? (ดูข้อ 21 ประกอบ)
Q2  คุณจะนำบทเรียนจากชีวิตของมิเรียมมาใช้ในชีวิตแห่งการร้องเพลงและสรรเสริญพระเจ้าได้อย่างไร?

เมื่ออิสอัคเติบโตขึ้นจนถึงวัยที่จะต้องแต่งงาน อับราฮัมจะส่งคนรับใช้ของท่านกลับไปที่บ้านเกิดเมืองนอนเพื่อจะเสาะหาหญิงสาวกลับมาแต่งงานกับอิสอัค ซึ่งผู้หญิงคนนั้นคือ เรเบคาห์ เราจะมาดูกันว่า เรเบคาห์มีคุณลักษณะอย่างไร จึงทำให้เธอถูกเลือกและได้แต่งงานกับอิสอัค

Q1  คนรับใช้ของอับราฮัมอธิษฐานเผื่อหญิงที่จะมาเป็นภรรยาของอิสอัคอย่างไร? และเรเบคาห์กระทำสิ่งใดบ้างที่สอดคล้องกับคำอธิษฐาน? (ดูข้อ 14, 17-20 ประกอบ)
Q2  การมีน้ำใจคือ การเอาใจใส่ในความทุกข์สุขของผู้อื่น โดยที่ไม่ต้องมีคนมาคอยเตือนหรือบอกให้ทำ เหมือนกับที่เรเบคาห์ทำให้กับคนรับใช้ของอับราฮัม อธิษฐานขอพระเจ้าให้สิ่งนี้จะเกิดผลในชีวิตของคุณ

นางฮาการ์เป็นทาสรับใช้นางซารายผู้เป็นนายหญิงของเธอเป็นเวลานาน เธอน่าจะเป็นทาสที่ดี ที่ถ่อมใจ เคารพเจ้านาย จนได้รับความชอบความไว้วางใจ และเป็นที่รักของนางซาราย จนถึงขนาดที่ว่า นางซารายยอมให้อับราฮัมเข้าหาเพื่อจะมีบุตรสืบตระกูล แต่เมื่อนางฮาการ์ตั้งครรภ์ ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป….

Q1  เกิดอะไรขึ้นเมื่อนางฮาการ์ตั้งครรภ์? ผลลัพธ์สุดท้ายเป็นอย่างไร? (ดูข้อ 4, 6, 8-9 ประกอบ)
Q2  สิ่งที่เกิดขึ้นกับนางฮาการ์สอดคล้องกับสุภาษิต 11:2 ที่ว่า “เมื่อความเย่อหยิ่งมาถึง ความหยามน้ำหน้าก็มาด้วย แต่ปัญญาอยู่กับคนใจถ่อม” คุณจะนำบทเรียนของนางฮาการ์มาใช้ในชีวิตอย่างไร?

3630/5052