วันศุกร์ที่ 21 มีนาคม สดุดี 127:1-2 “บ้างาน”
ในสังคมปัจจุบันมีคนไม่น้อยที่ทำงาน 60-70 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือมากกว่านั้น โดยคิดว่า การทำงานหนักนั้นแสดงให้เห็นถึงคุณค่าที่ตนเองมี และถ้าไม่มีงานทำจะรู้สึกว่า ตนเองด้อยคุณค่า ถ้าไม่ทำงานเยอะ ก็จะรู้สึกผิดต่อตัวเอง และบริษัท สุดท้ายกลายเป็นคนบ้างาน หรือ เสพติดงาน
Q1 พระคัมภีร์ตอนนี้ได้ให้แนวทางในการทำงานอย่างไรบ้าง เพื่อเราจะไม่กลายเป็นคนบ้างาน หรือเสพติดงาน? (สังเกตคำกิริยาต่างๆ)
Q2 ทบทวนการทำงานของคุณว่า มากเกินไปจนทำลายความสัมพันธ์ของคุณกับคนในครอบครัว หรือทำลายสุขภาพของคุณหรือไม่ อธิษฐานขอสติปัญญาจากพระเจ้าที่คุณจะเรียนรู้จักความพอดี และความเหมาะสมในการทำงาน
วันพฤหัสบดีที่ 20 มีนาคม มัทธิว 20:1-16 “ค่าตอบแทน”
ค่าตอบแทนในการทำงาน หรือค่าจ้าง หรือเงินเดือน ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องคิดไตร่ตรองให้ดี เพราะมีผลทั้งต่อนายจ้างซึ่งเป็นผู้ว่าจ้าง และลูกจ้างซึ่งเป็นผู้ทำงาน ซึ่งค่าตอบแทนจะมีจำนวนสูง หรือน้อยนั้นเป็นสิ่งที่มีผลกระทบต่อการทำงาน และความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างและลูกจ้างด้วย
Q1 จากคำอุปมาเรื่องนี้ เจ้าของสวนใช้วิธีอย่างไรในการจัดการเรื่องค่าตอบแทน? (ดูข้อ 2, 4ข, 13 ประกอบ)
Q2 ถ้าคุณเป็นเจ้านาย / เจ้าของ คุณจะให้ค่าตอบแทนลูกน้อง / ลูกจ้างอย่างเหมาะสมยุติธรรมได้อย่างไร? ถ้าคุณเป็นลูกน้อง / ลูกจ้าง คุณได้ทำงานของคุณสมกับค่าตอบแทนหรือเปล่า หรือคุณคาดหวังว่า จะได้รับค่าจ้างเพิ่มโดยที่ไม่ต้องทำอะไรตอบแทน?
วันพุธที่ 19 มีนาคม เอเฟซัส 6:5-9 “การปฏิบัติต่อลูกน้อง”
ในทำนองเดียวกัน ก็มีเจ้านายจำนวนไม่น้อยที่มองลูกน้อง / ลูกจ้างเหมือนกับทาส มองความสัมพันธ์แบบการแลกเปลี่ยน คิดแค่ผลประโยชน์ที่จะได้รับ ไม่สนใจว่าชีวิตของลูกน้อง / ลูกจ้างจะเป็นอย่างไร มีเจ้านาย / เจ้าของจำนวนมากที่คิดว่า เราจ่ายเงินเขาไปแล้ว ทุกอย่างก็ทำตามข้อตกลง จะมาเรียกร้องอะไรกันอีก
Q1 พระคัมภีร์ตอนนี้สอนท่าทีของเจ้านาย / เจ้าของ ที่ควรมีต่อลูกน้อง / ลูกจ้างอย่างไรบ้าง?
Q2 ถ้าคุณเป็นเจ้านาย / เจ้าของ คุณจะนำหลักการตรงนี้ไปใช้ในชีวิตการทำงานอย่างไร? ถ้าคุณเป็นลูกน้อง / ลูกจ้าง ใช้เวลานี้อธิษฐานเผื่อเจ้านาย / เจ้าของ ของคุณให้มีท่าทีการทำงานเหมือนในพระคัมภีร์
วันอังคารที่ 18 มีนาคม เอเฟซัส 6:5-9 “การปฏิบัติต่อเจ้านาย”
ในการทำงานทุกๆ ที่ ส่วนใหญ่จะมีคนที่ถูกเรียกว่า “เจ้านาย” / “เจ้าของ” และ “ลูกน้อง” / “ลูกจ้าง” มีลูกน้องจำนวนไม่น้อยที่มองเจ้านาย /เจ้าของ เหมือนกับยักษ์ ที่เขี้ยวงอกยาว พูดจานินทาลับหลัง และที่อยู่ยอมทำงานด้วยก็เพื่อจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ หวังโบนัส และรอจังหวะที่จะเปลี่ยนงานใหม่ถ้าได้เงินดีกว่า
Q1 พระคัมภีร์ตอนนี้สอนท่าทีของลูกน้อง / ลูกจ้างที่ควรมีต่อเจ้านาย / เจ้าของอย่างไรบ้าง?
Q2 ถ้าคุณเป็นลูกน้อง / ลูกจ้าง คุณจะนำหลักการนี้ไปใช้ในชีวิตการทำงานอย่างไร? ถ้าคุณเป็นเจ้านาย / เจ้าของ ใช้เวลานี้อธิษฐานเผื่อลูกน้อง / ลูกจ้างของคุณให้มีท่าทีการทำงานเหมือนในพระคัมภีร์
วันจันทร์ที่ 17 มีนาคม สุภาษิต 11:1-6 “ความสัตย์ซื่อ”
ในโลกของการทำงาน ความสัตย์ซื่อเป็นสิ่งที่หาได้ค่อนข้างยาก เพราะปรัชญาในการทำงานคือ ทำอย่างไรก็ได้ให้ของสามารถขายได้ หรืองานเป็นที่ยอมรับของลูกค้า หรือมียอดขายที่ทะลุเป้าที่วางไว้ การโกหก การบ่ายเบี่ยง การบอกความจริงไม่หมด กลายเป็นเครื่องมือในการที่จะทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จในการงาน
Q1 พระคัมภีร์ตอนนี้ชี้ให้ถึงความแตกต่างและผลลัพธ์ของ “ความสัตย์ซื่อ” และ “การคดโกง” อย่างไร?
Q2 ทบทวนชีวิตของคุณว่า คุณทำงาน / ค้าขาย บนพื้นฐานของ “ความสัตย์ซื่อ” หรือ “การคดโกง” อธิษฐานขอพระเจ้าเปลี่ยนแปลง และเสริมกำลังของคุณที่จะกล้าแตกต่างจากคนที่ไม่เชื่อพระเจ้า