แต่ทุกคนที่ยอมรับพระองค์ คือคนที่เชื่อในพระนามของพระองค์นั้น
พระองค์ก็จะประทานสิทธิ@ให้เป็นลูกของพระเจ้า

Q1 อะไรคือ “สิทธิพิเศษ” สำหรับคนที่เชื่อ และต้อนรับพระเยซูคริสต์เข้ามาเป็นพระผู้ช่วยในชีวิตของเขา? (สังเกตคำหลัง @)
Q2 “สิทธิพิเศษ” นี้มีความหมาย และส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของคุณอย่างไร? (ดู โรม 8:15 และ เอเฟซัส 5:1-2 ประกอบ)
หมายเหตุ: โรม 8:15 เพราะว่าพระวิญญาณที่พระเจ้าประทานมานั้นจะไม่ทรงให้ท่านเป็นทาส ซึ่งทำให้ตกในความกลัวอีก แต่พระวิญญาณจะทรงให้ท่านมีฐานะเป็นบุตรของพระเจ้า โดยพระวิญญาณนั้นเราจึงร้องเรียกพระเจ้าว่า “อับบา (พ่อ)”เอเฟซัส 5:1-21 เพราะฉะนั้นท่านทั้งหลายจงเลียนแบบของพระเจ้าให้สมกับเป็นบุตรที่รัก 2 และจงดำเนินชีวิตในความรักเช่นเดียวกับที่พระคริสต์ทรงรักเรา และประทานพระองค์เองเพื่อเรา ให้เป็นเครื่องถวายและเครื่องบูชาที่ทรงโปรดปรานแด่พระเจ้า


อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี:  เฉลยธรรมบัญญัติ 30-31 มาระโก 15:1-20

และจงตั้งเป้าว่าจะอยู่อย่างสงบ 1.และทำกิจธุระส่วนของตน
2.และทำงานด้วยมือของตนเอง เหมือนอย่างที่เรากำชับท่านแล้ว
3.เพื่อพวกท่านจะได้เป็นที่นับถือของคนภายนอก 4.และไม่ต้องรบกวนใครเลย

Q1 มี “ผลลัพธ์” อย่างน้อย 4 ประการที่คริสเตียนจะได้รับเมื่อ “ดำเนินชีวิตอย่างสงบ” กับคนอื่นๆ ในสังคม คืออะไรบ้าง?
Q2 คุณจะใช้พระคัมภีร์ข้อนี้ใน “การดำเนินชีวิตอย่างสงบ” กันคนที่อยู่รอบๆ ตัวของคุณอย่างไร? (ทั้งที่โรงเรียน ที่ทำงาน ที่บ้าน ที่คริสตจักร ฯลฯ)


อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี:  เฉลยธรรมบัญญัติ 28-29 มาระโก 14:53-72

จงปฏิบัติต่อคนภายนอก1.ด้วยสติปัญญา 2.โดยใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์
3.จงให้ถ้อยคำของท่านทั้งหลายประกอบด้วยเมตตาคุณเสมอ
4.ปรุงด้วยเกลือให้มีรส เพื่อท่านจะได้รู้ว่า5.ควรจะตอบแต่ละคนอย่างไร

Q1 เปาโลให้ “คำแนะนำ” เกี่ยวกับ “การดำเนินชีวิตร่วมกับคนที่ไม่เชื่อพระเจ้า” อย่างน้อย 5 ประการ คืออะไรบ้าง?
Q2 คุณจะนำ “คำแนะนำ” นี้ไปใช้กับคนที่อยู่รอบๆ ชีวิตของคุณ เพื่อคนเหล่านั้นจะมีโอกาสได้รู้จักกับพระเจ้าเหมือนคุณอย่างไร?


อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี:  เฉลยธรรมบัญญัติ 26-27 มาระโก 14:27-52

ข้ามีชีวิตอยู่ตราบใด ข้าจะร้องเพลงถวายพระยาห์เวห์ขณะข้ายังเป็นอยู่
ข้าจะร้องเพลงสดุดีถวายพระเจ้าของข้า

Q1 จากคำว่า “มีชีวิตอยู่ตราบใด” และ “ขณะข้ายังเป็นอยู่” สะท้อนให้เห็นว่า ผู้เขียนสดุดีให้ “ความสำคัญ” กับ “การนมัสการพระเจ้า” อย่างไร?
Q2 คุณจะนำ “ท่าที” และ “การให้ความสำคัญ” กับการนมัสการพระเจ้าของผู้เขียนสดุดี มาใช้ในชีวิตของคุณ และการนมัสการพระเจ้าในวันอาทิตย์นี้อย่างไร?(ดูสดุดี 27:4 ประกอบ)
หมายเหตุ: สดุดี 27:4 ข้าพเจ้าทูลขอสิ่งหนึ่งจากพระยาห์เวห์ ซึ่งข้าพเจ้าจะเสาะแสวงหา คือที่ข้าพเจ้าจะได้อยู่ในพระนิเวศของพระยาห์เวห์ ตลอดวันคืนแห่งชีวิตของข้าพเจ้า เพื่อจะดูความงามของพระยาห์เวห์ และเพื่อจะพินิจพิจารณาอยู่ในพระวิหารของพระองค์


อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี:  เฉลยธรรมบัญญัติ 23-25 มาระโก 14:1-26

ขอทรงเปิดตาข้าพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะเห็นสิ่งอัศจรรย์จากธรรมบัญญัติของพระองค์

Q1 คำว่า “ขอเปิดตา” (คำอธิษฐานขอ) เกี่ยวข้องกับ “การเห็นสิ่งอัศจรรย์” ใน “ธรรมบัญญัติ” (พระวจนะ) อย่างไร? (ดู สดุดี 119:34 ประกอบ)
Q2 อะไรคือ “อุปสรรค” ที่ทำให้คุณไม่เข้าใจพระวจนะของพระเจ้า? (ดู สดุดี 1:1-2 ประกอบ) พระคัมภีร์ข้อนี้จะช่วยให้คุณเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้น และมีชีวิตที่อยู่ในทางของพระเจ้าอย่างไร?
หมายเหตุ:  สดุดี 119:34 ขอประทานความเข้าใจแก่ข้าพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะรักษาธรรมบัญญัติของพระองค์ไว้ และปฏิบัติตามด้วยสุดใจสดุดี 1:1-21 บุคคลผู้เป็นสุขคือ ผู้ไม่เดินตามคำแนะนำของคนอธรรม ไม่ยืนอยู่ในทางของคนบาป ไม่นั่งอยู่ในที่นั่งของคนที่ชอบเยาะเย้ย 2 แต่ความปีติยินดีของผู้นั้นอยู่ในธรรมบัญญัติของพระยาห์เวห์ เขาใคร่ครวญธรรมบัญญัติของพระองค์ทั้งกลางวันและกลางคืน


อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี:  เฉลยธรรมบัญญัติ 20-22 มาระโก 13:24-37

55/5435