แต่ถ้าไม่มีความเชื่อแล้ว @จะไม่เป็นที่พอพระทัยเลย
เพราะว่าผู้ที่จะมาเฝ้าพระเจ้านั้น @ต้องเชื่อว่าพระองค์ทรงดำรงพระชนม์อยู่
@และพระองค์ทรงเป็นผู้ประทานบำเหน็จแก่คนเหล่านั้นที่แสวงหาพระองค์

Q1 “ความเชื่อ” มีส่วนสำคัญใน “การนมัสการพระเจ้า” อย่างไร? (สังเกตคำหลัง @ และ ดู ยอห์น 4:23-24 ประกอบ)
Q2 พระคัมภีร์ข้อนี้ จะมีส่วนทำให้ “การนมัสการพระเจ้า” ของคุณในวันอาทิตย์แตกต่างไปอย่างไร?
หมายเหตุ: ยอห์น 4:23-24²³ แต่วาระนั้นใกล้เข้ามาแล้ว และบัดนี้ก็ถึงแล้ว คือเมื่อคนที่นมัสการอย่างแท้จริงจะนมัสการพระบิดาด้วยจิตวิญญาณและความจริง เพราะว่าพระบิดาทรงแสวงหาคนเช่นนั้นมานมัสการพระองค์ ²⁴ พระเจ้าเป็นพระวิญญาณ และคนที่นมัสการพระองค์จะต้องนมัสการด้วยจิตวิญญาณและความจริง”

อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี สดุดี 51-53  โรม 2

พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่า 1.ท่านบริบูรณ์ด้วยความดี
2.และพร้อมด้วยความรู้ทุกอย่าง สามารถจะเตือนสติกันและกันได้

Q1 ใน “การเตือนสติกันและกัน” ผู้ที่เตือนสติผู้อื่นควรจะต้องมี “คุณลักษณะ” อย่างน้อย 2 ประการ คือ
Q2 คุณจะนำหลักการ “การเตือนสติ” ไปใช้เตือนสติผู้อื่นในชีวิตจริงของคุณอย่างไร? (ดู มัทธิว 7:3-5 ประกอบ
หมายเหตุ: มัทธิว 7:3-5 ³ ทำไมท่านมองเห็นผงในตาพี่น้องของท่าน แต่กลับมองไม่เห็นไม้ทั้งท่อนที่อยู่ในตาของท่าน? ⁴ ท่านจะกล่าวกับพี่น้องได้อย่างไรว่า ‘ให้ฉันเขี่ยผงออกจากตาของเธอ?’ ทั้งๆ ที่มีไม้ทั้งท่อนอยู่ในตาของท่านเอง ⁵ คนหน้าซื่อใจคด จงชักไม้ทั้งท่อนออกจากตาของท่านก่อน แล้วท่านจะเห็นได้ถนัด จึงจะเขี่ยผงออกจากตาพี่น้องของท่านได้

อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี   สดุดี 49-50  โรม 1

พระเยซูตรัสตอบนางว่า “ถ้าเธอรู้จักของที่พระเจ้าประทาน
และรู้จักผู้ที่พูดกับเธอว่า ‘ขอน้ำให้เราดื่มบ้าง’
ก็คงจะขอจากท่านผู้นั้น และผู้นั้นก็คงจะให้น้ำดำรงชีวิตแก่เธอ”

Q1 “น้ำดื่ม” และ “น้ำดำรงชีวิต” แตกต่างกันอย่างไร?  (ดู ยอห์น 4:13-14 ประกอบ)
Q2 คุณต้องการ “น้ำดำรงชีวิต” เข้าไปดับ “ความกระหาย” “ความแห้งแล้ง” ในชีวิตของคุณด้านใดบ้าง? (ด้านส่วนตัว / ครอบครัว / การทำงาน / การเรียน / การรับใช้ / อารมณ์ / จิตวิญญาณ) อธิษฐานมอบ “ความกระหาย” “ความแห้งแล้ง” ที่มีในชีวิตของคุณไว้กับพระเจ้า (ดู มัทธิว 11:28 ประกอบ)
หมายเหตุ: ยอห์น 4:13-14 ¹³ พระเยซูตรัสตอบว่า “ทุกคนที่ดื่มน้ำนี้จะกระหายอีก ¹⁴ แต่คนที่ดื่มน้ำที่เราจะให้กับเขานั้น จะไม่มีวันกระหายอีกเลย น้ำที่เราจะให้เขานั้นจะกลายเป็นบ่อน้ำพุในตัวเขาพลุ่งขึ้นถึงชีวิตนิรันดร์”
มัทธิว11:28 บรรดาผู้เหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลายได้หยุดพัก

อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี  สดุดี 46-48  กิจการ 28

ใจร่าเริงเป็นยาอย่างดี แต่จิตใจชอกช้ำทำให้กระดูกแห้ง

Q1 อะไรคือ “ความแตกต่าง” ระหว่าง “ใจร่าเริง” และ “จิตใจชอกช้ำ” ในเวลาที่เราต้องเผชิญหน้ากับปัญหาหรืออุปสรรค? (สังเกตคำหลังคำว่า “เป็น” และ “ทำให้”)
Q2 ถ้าคุณกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาและอุปสรรคอยู่ คุณอยากจะมี “ใจร่าเริง” แบบไหน? และคุณไม่อยากมี “จิตใจชอกช้ำ” แบบไหน? ลองเขียนออกมาและใช้เวลานี้อธิษฐานขอกับพระเจ้า

อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี   สดุดี 43-45   กิจการ 27:27-44

คนเกียจคร้านเอ๋ย ไปหามดไป๊ พิเคราะห์ดูทางของมัน และจงมีปัญญา
@โดยปราศจากหัวหน้า เจ้าหน้าที่หรือผู้ปกครอง
@มันเตรียมอาหารของมันในฤดูแล้ง @และสะสมเสบียงของมันในฤดูเกี่ยว

Q1 “มด” เป็น “ตัวอย่างที่ดี” สำหรับ “คนเกียจคร้าน” อย่างไร? (สังเกตคำหลัง @)
Q2 คุณจะนำ “ตัวอย่างที่ดีของมด” มาใช้ เพื่อชีวิตของคุณจะห่างไกลจากชีวิตที่เกียจคร้านอย่างไร?  (ดู 2 เธสะโลนิกา 3:6-7 ประกอบ)
หมายเหตุ: 2 เธสะโลนิกา 3:6-7⁶ พี่น้องทั้งหลาย เราขอกำชับท่านในพระนามของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราว่า จงปลีกตัวออกห่างพี่น้องทุกคนที่อยู่อย่างเกียจคร้าน และไม่ประพฤติตามคำสอนซึ่งเขาได้รับจากเรา ⁷ เพราะตัวท่านเองก็รู้อยู่ว่า ควรจะเอาอย่างเรา เราไม่ได้เกียจคร้านเลยเมื่ออยู่ท่ามกลางพวกท่าน

อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี   สดุดี 40-42 กิจการ 27:1-26