วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน สดุดี 18:1-2 “ข้าพระองค์รักพระองค์”
ดาวิดทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ ผู้ทรง@เป็นกำลังของข้าพระองค์ ข้าพระองค์รักพระองค์” @พระยาห์เวห์ทรงเป็นศิลา @ป้อมปราการ และ@ผู้ช่วยกู้ของข้าพเจ้า @ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพเจ้า @เป็นศิลาซึ่งข้าพเจ้าเข้าลี้ภัย@ทรงเป็นโล่ @เป็นพลังแห่งความรอด @เป็นที่กำบังอันแข็งแกร่งของข้าพเจ้า
Q1 อะไรคือเหตุผลที่ให้ผู้เขียนสดุดีบทนี้พูดว่า “ข้าพระองค์รักพระองค์”? (สังเกต “พระลักษณะของพระเจ้า” หลัง @)
Q2 คิดถึงครั้งสุดท้ายที่คุณบอกว่า “ข้าพระองค์รักพระองค์” อ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ช้าๆ อีกครั้งเพื่อค้นหาว่า อะไรคือสาเหตุที่ทำให้คุณพูดแบบนั้นกับพระเจ้า? อธิษฐานขอบคุณพระเจ้าสำหรับสิ่งนั้น
อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี บทเพลงคร่ำครวญ 3-5 ฮีบรู 10:19-39
วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน สดุดี 127:1-2 “หลับสบาย”
@ถ้าพระยาห์เวห์มิได้ทรงสร้างบ้าน บรรดาผู้ที่สร้างก็เหนื่อยเปล่า
@ถ้าพระยาห์เวห์มิได้ทรงเฝ้ารักษานคร คนยามตื่นอยู่ก็เหนื่อยเปล่า
เป็นการเหนื่อยเปล่า ที่ท่านลุกขึ้นแต่เช้ามืด ทำงานจนดึก กินอาหารที่ได้
จากงานตรากตรำ เพราะพระองค์ประทานการนอนหลับแก่ผู้ที่พระองค์ทรงรัก
Q1 “พระเจ้า” ทรงเกี่ยวข้องกับ “ความเหนื่อยเปล่า” อย่างไร? (สังเกตคำหลังคำว่า “ถ้า”)
Q2 “เพราะพระองค์ประทานการนอนหลับแก่ผู้ที่พระองค์ทรงรัก” หนุนใจคุณเมื่อกลับถึงบ้าน หลังจากการดำเนินชีวิตวันนี้ท่ามกลางความรับผิดชอบต่างๆ ตลอดทั้งวันอย่างไร? (ดู มัทธิว 11:28 ประกอบ)
หมายเหตุ: มัทธิว11:28 บรรดาผู้เหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลายได้หยุดพัก
อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี บทเพลงคร่ำครวญ 1-2 ฮีบรู 10:1-18
วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน ฮาบากุก 2:1 “พระองค์จะตรัสอะไรแก่ข้าพเจ้า”
ข้าพเจ้าจะยืนเฝ้าดูอยู่ ข้าพเจ้าจะยืนที่หอคอย และเฝ้ารอเพื่อจะดูว่า พระองค์
จะตรัสอะไรแก่ข้าพเจ้า และข้าพเจ้าจะทูลตอบอย่างไรในเรื่องการร้องทุกข์ของข้าพเจ้า
Q1 คำว่า “จะยืนเฝ้าดูอยู่” “จะยืนที่หอคอย” “เฝ้ารอเพื่อจะดู” และ “พระองค์จะตรัสอะไร” เกี่ยวข้องกับ “การร้องทุกข์” และ “การอธิษฐาน” ของฮาบากุกอย่างไร? (ดู สดุดี 91:15 ประกอบ)
Q2 คำว่า “พระองค์จะตรัสอะไรแก่ข้าพเจ้า” หนุนใจคุณที่จะรักษา “ชีวิตแห่งการอธิษฐาน” อย่างไร?
หมายเหตุ: สดุดี 91:15 เขาจะร้องทูลเรา แล้วเราจะตอบเขา เราจะอยู่กับเขาในยามลำบาก เราจะช่วยกู้เขาและให้เกียรติเขา
อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี เยเรมีย์ 51-52 ฮีบรู 9
วันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน 2 โครินธ์ 7:11 “เสียใจอย่างที่ชอบพระทัยพระเจ้า”
จงดูสิว่าความเสียใจตามพระประสงค์ของพระเจ้าเช่นนี้ นำไปสู่1.การเอาจริงเอาจังเพียงไร และยัง2.ทำให้เกิดการขวนขวายที่จะพิสูจน์ตัวเอง 3.เกิดความขุ่นเคือง 4.ความตื่นตัว 5.ความอาลัย 6.ความกระตือรือร้น และ7.เกิดการลงโทษ พวกท่านพิสูจน์ตัวเองในทุกด้านแล้วว่าเป็นผู้ปราศจากความผิดในเรื่องนี้
Q1 “ความเสียใจตามพระประสงค์ของพระเจ้า” (อย่างที่ชอบพระทัยพระเจ้า) มีลักษณะ 7 ประการ คืออพไรบ้าง?Q2 คำพูดที่ว่า “พวกท่านพิสูจน์ตัวเองในทุกด้านแล้วว่าเป็นผู้ปราศจากความผิดในเรื่องนี้” ชี้ให้เห็นถึง “ผลลัพธ์” ที่จะเกิดขึ้นกับ “จิตใจของคุณ” เมื่อคุณ “เสียใจอย่างถูกต้อง” อย่างไร? (ดู 2 โครินธ์ 7:10 ประกอบ) หมายเหตุ: 2 โครินธ์ 7:10 เพราะว่าความเสียใจตามพระประสงค์ของพระเจ้า ทำให้เกิดการกลับใจ ซึ่งจะนำไปสู่ความรอดและจะไม่ทำให้เสียใจ แต่ความเสียใจอย่างโลกนั้นย่อมนำสู่ความตาย
อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี เยเรมีย์ 50 ฮีบรู 8
วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน สุภาษิต 2:4-5 “ท่าที”
ถ้าเจ้าแสวงหาปัญญาเหมือนหาเงิน และเสาะหาเธออย่างหาขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่
แล้ว1.เจ้าจะเข้าใจความยำเกรงพระยาห์เวห์ 2.และพบความรู้ของพระเจ้า
Q1 ผู้เขียนสุภาษิตบอกกับเราว่า ถ้าเรามี “ท่าทีในการแสวงหาปัญญา (พระเจ้า)” เหมือนกับ “การแสวงหาเงิน” และ “เสาะหาขุมทรัพย์” จะมีผลลัพธ์เกิดขึ้นอย่างน้อย 2 ประการ คืออะไรบ้าง?
Q2 คุณจะนำพระคัมภีร์ข้อนี้ไปใช้ใน “การรู้จักพระเจ้ามากขึ้น” อย่างไร?
อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี เยเรมีย์ 48-49 ฮีบรู 7