พระองค์1.ทรงสำแดงวิถีแห่งชีวิตแก่ข้าพระองค์
ต่อพระพักตร์พระองค์2.มีความยินดีเปี่ยมล้น
ในพระหัตถ์ขวาของพระองค์3.มีความเพลิดเพลินอยู่เป็นนิตย์

Q1 อะไรคือ “ผลลัพธ์” ของการได้ “ใกล้ชิด” กับพระเจ้า?
Q2 ผลลัพธ์ที่คุณได้รับจากการ “ใกล้ชิด” กับพระเจ้า “เหมือน” หรือ “แตกต่าง” จากผู้เขียนสดุดีข้อนี้? ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? (ดู สดุดี 69:32-33 ประกอบ)
หมายเหตุ: สดุดี 69:32-3332 ขอให้บรรดาผู้ถ่อมตัวเห็นการนั้นและยินดี ท่านผู้เสาะหาพระเจ้า ขอให้ใจของท่านฟื้นชื่นขึ้น 33 เพราะพระยาห์เวห์ทรงฟังคนขัดสน และมิได้ทรงดูหมิ่นคนของพระองค์ที่ถูกจำจอง


อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี   สดุดี 143-145  1 โครินธ์ 14:20-40

เมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้ว พระเยซูตรัสกับซีโมนเปโตรว่า
“ซีโมนบุตรยอห์นเอ๋ย ท่านรักเรามากกว่าพวกนี้หรือ?”
เขาทูลพระองค์ว่า “ใช่ องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงทราบว่าข้าพระองค์
รักพระองค์” พระองค์ตรัสสั่งเขาว่า “จงเลี้ยงดูลูกแกะของเราเถิด”

Q1 คำว่า “ข้าพระองค์รักพระองค์” กับ “จงเลี้ยงลูกแกะของเราเถิด” เกี่ยวข้องกันอย่างไร? (ดู ยอห์น 14:23 ประกอบ)
Q2 ถ้าคุณตอบว่า “คุณรักพระเจ้า” พระองค์จะให้บอกให้คุณ “ทำสิ่งใด” ในเวลานี้?
หมายเหตุ: ยอห์น 14:23 พระองค์ตรัสตอบเขาว่า “ถ้าใครรักเรา คนนั้นจะประพฤติตามคำของเรา และพระบิดาจะทรงรักเขา แล้วเราทั้งสองจะมาหาเขาและจะอยู่กับเขา


อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี   สดุดี 140-142 1 โครินธ์ 14:1-19

พระองค์ตรัสกับเขาทั้งสองว่า “จงตามเรามา และเราจะตั้งท่านให้เป็นผู้หาคน
ดั่ง@หาปลา” เขาจึง@ละทิ้งแหตามพระองค์ไปทันที

Q1 พระเยซูทรงเรียกร้องให้ ซีโมนเปโตรกับอันดูรว์น้องชายให้ “ละทิ้ง” สิ่งใด เพื่อจะติดตาม “เป็นสาวก” ของพระองค์? (สังเกตคำหลัง @)
Q2 พระเยซูทรงเรียกร้องให้คุณ “ละทิ้ง” สิ่งใด เพื่อจะติดตาม “เป็นสาวก” ของพระองค์? (ดู เอเฟซัส 4:22-23 ประกอบ) ลองเขียนออกมาสัก 2 สิ่ง อธิษฐานขอบคุณพระเจ้าสำหรับความตั้งใจที่คุณมี และขอกำลังจากพระเจ้าที่คุณจะเป็นสาวกที่แท้จริง
หมายเหตุ: เอเฟซัส 4:22-23 22 คือได้รับการสอนให้ทิ้งตัวเก่าของพวกท่านที่คู่กับการประพฤติแบบเดิม ซึ่งถูกตัณหาล่อลวงทำให้พินาศไป 23 และให้วิญญาณและจิตใจของพวกท่านได้รับการเปลี่ยนใหม่


อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี   สดุดี 137-139   1 โครินธ์ 13

เพราะเหตุนี้ เราจะต้องเอาใจใส่ในสิ่งต่างๆ (พระวจนะของพระเจ้า)
ที่เราได้ยินให้มากขึ้นอีก @เพื่อเราจะไม่ห่างไกลไปจากข้อความเหล่านั้น

Q1 ทำไมเราต้อง “เอาใจใส่ในสิ่งต่างๆ (พระวจนะของพระเจ้า) ที่เราได้ยินให้มากขึ้นอีก” ทั้งๆ ที่อาจจะเคยได้ยินได้ฟังมาแล้ว? (สังเกตคำหลังคำว่า “เพื่อ” และ ดู มัทธิว 4:4 ประกอบ)
Q2 พระคัมภีร์ข้อนี้หนุนใจคุณ “ให้เอาใจใส่” และ “ให้ความสำคัญ” กับ “การฟังพระวจนะของพระเจ้า” เพิ่มมากขึ้นอย่างไร? (ดู สดุดี 119:105 ประกอบ)
หมายเหตุ: สดุดี 119:105 พระวจนะของพระองค์เป็นตะเกียงแก่เท้าของข้าพระองค์ และเป็นความสว่างแก่ทางของข้าพระองค์มัทธิว 4:4 พระองค์ตรัสตอบว่า “มีพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า ‘มนุษย์จะดำรงชีวิตด้วยอาหารเพียงอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องดำรงชีวิตด้วยพระวจนะทุกคำซึ่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า’ ”


อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี   สดุดี 135-136 1 โครินธ์ 12

1.อย่ายกอวัยวะของท่านให้แก่บาป ให้เป็นเครื่องใช้ในการอธรรม
แต่จงถวายตัวของท่านแด่พระเจ้า เหมือนคนที่เป็นขึ้นมาจากตายแล้ว
และ2.จงให้อวัยวะเป็นเครื่องใช้ในการชอบธรรมถวายแด่พระเจ้า

Q1 “จงถวายตัวแด่พระเจ้า” ในพระคัมภีร์ข้อนี้หมายความว่าอย่างไร? (สังเกตคำหลังคำว่า “อย่า” “จง”)
Q2 คุณจะ “ถวายตัวแด่พระเจ้า” ด้วยชีวิตของคุณอย่างไร? (ดู โรม 12:1-2 ประกอบ)
หมายเหตุ: โรม12:1-2 1 ดังนั้น พี่น้องทั้งหลาย โดยเห็นแก่ความเมตตากรุณาของพระเจ้า ข้าพเจ้าจึงวิงวอนท่านทั้งหลายให้ถวายตัวของท่านแด่พระองค์ เพื่อเป็นเครื่องบูชาอันบริสุทธิ์ที่มีชีวิต และเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า ซึ่งเป็นการนมัสการโดยวิญญาณจิตของท่าน 2 อย่าลอกเลียนแบบอย่างคนในยุคนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจ แล้วอุปนิสัยของท่านจึงจะเปลี่ยนใหม่ เพื่อท่านจะได้ทราบพระประสงค์ของพระเจ้า จะได้รู้ว่าอะไรดี อะไรเป็นที่ชอบพระทัย และอะไรดียอดเยี่ยม


อ่านพระคัมภีร์ให้จบเล่มภายในหนึ่งปี   สดุดี 132-134 1 โครินธ์ 11:17-34

120/5671