11 ดูก่อนท่านที่รัก ข้าพเจ้าขอวิงวอนท่านทั้งหลาย
ผู้อาศัยในโลกอย่างโลกไม่เป็นบ้านเกิดเมืองนอน
ให้เว้นจากตัณหาของเนื้อหนัง ซึ่งเป็นข้าศึกต่อวิญญาณจิตของท่าน

Q1  อ่านพระคัมภีร์ข้อนี้ 2-3 รอบ ช้าๆ อย่างใคร่ครวญ คำว่า “วิงวอน” “โลก” “ไม่ใช่บ้านเกิด” “เว้นจากตัณหา” “ข้าศึก” ช่วยให้เรามีมุมมองในการดำเนินชีวิตบนโลกนี้อย่างไร?
Q2  วันนี้คุณลงทุนชีวิตกับ “โลกที่ไม่ใช่บ้านถาวร” นี้มากน้อยแค่ไหน เมื่อเทียบกับ “แผ่นดินสวรรค์ที่เป็นบ้านถาวร” ของคุณ?

Q1  อ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ช้าๆ 2 -3 รอบ โดยในแต่ละรอบให้หยุดพักโดยหลับตาลงสักครู่ ค่อยๆ ให้พระวจนะของพระเจ้าซึมซับลงไปในใจของเรา
Q2  ขอบคุณพระเจ้าสำหรับพระวจนะที่ได้อ่านไป อธิษฐานขอพระเจ้าที่จะช่วยให้คุณผ่านการเฝ้าเดี่ยวแบบใคร่ครวญในอาทิตย์นี้ไปได้อย่างมีความชื่นชมยินดี

ทุกคนต่างมีวาระสุดท้ายของชีวิต เอลีชาก็เช่นกันในช่วงสุดท้ายท่านล้มป่วยและกำลังจะจากไปอยู่กับพระเจ้า และแน่นอนว่า การจากไปของเอลีชาเป็นสิ่งที่กระทบทุกๆ คน เพราะท่านเป็นเหมือนกับตัวแทนของพระเจ้า ที่คอยดูแลและให้คำแนะนำกับอิสราเอลให้อยู่ในทางของพระเจ้า รวมทั้งเป็นตัวแทนของอิสราเอลที่จะร้องทูลขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าในยามที่เดือดร้อน ซึ่งเอลีชาก็ทำหน้าที่ของผู้เผยพระวจนะจนนาทีสุดท้าย

Q1  ด้วยความห่วงใยอิสราเอล เอลีชาได้ทำงานชิ้นสุดท้ายของท่าน ด้วยการร้องทูลขอการช่วยกู้จากพระเจ้าให้อิสราเอลมีชัยชนะเหนือซีเรีย ผ่านการเอาลูกธนูตีพื้นของกษัตริย์เยโฮอาช ซึ่งผลลัพธ์คือ? (ดูข้อ 18-19ประกอบ)
Q2  แม้ว่าเอลีชาจะตายและร่างกายเน่าเปื่อยกลายเป็นกระดูก แต่เมื่อมีโจรกลุ่มหนึ่งโยนศพชายคนหนึ่งลงไปที่อุโมงค์ ทันที่ศพโดนกระดูกของเอลีชา ชายคนนั้นก็มีชีวิตขึ้นมาอีก ชีวิตของคุณจะถ่ายทอดฤทธิ์เดชของพระเจ้า เป็นพระพรและเป็นชีวิตให้กับผู้อื่นเหมือนเอลีชาได้อย่างไร?

กษัตริย์เบนฮาดัดของซีเรียยกกองทัพใหญ่มาล้อมกรุงสะมาเรีย และในเวลานั้นเองก็เกิดการกันดารอาหาร อิสราเอลเหมือนกับเผชิญหน้ากับศึก 2 ด้านพร้อมๆ กัน และเหตุการณ์เลวร้ายจนถึงขนาดว่า แม่สองคนต้องผลัดกันกินลูกของตน และมีปัญหาจนต้องมาฟ้องร้อง เพราะแม่อีกคนเปลี่ยนใจไม่ยอมให้กินลูกของตนเอง แต่พระราชาของอิสราเอลก็ไม่คิดว่า นี่เป็นผลจากความผิดบาปของตน ที่หันหลังให้พระเจ้า และไปนับถือพระบาอัล กลับมาว่า เป็นความผิดของพระเจ้า และตั้งใจจะฆ่าเอลีชา เพื่อจะระบายความแค้น (บทที่ 6:24-33)

Q1  เอลีชาได้บอกถึงการช่วยกู้ที่จะมาจากพระเจ้าเหนือสงครามครั้งนี้อย่างไร? (ดูข้อ 1, 6-7 ประกอบ) และใครเป็นผู้ที่ได้เห็นถึงการช่วยกู้ของพระเจ้า และใครที่ไม่ได้เห็นการช่วยกู้ของพระเจ้า? (ดูข้อ 2, 3-4, 8, 19-20 ประกอบ)
Q2  ชัยชนะเหนือกองทัพซีเรีย และคำพูดของพระเยซูที่ว่า “ถ้าช่วยได้น่ะหรือ ใครเชื่อก็ทำให้ได้ทุกสิ่ง” (มาระโก 9:23) ช่วยให้คุณมีกำลังใจที่จะอธิษฐานเผื่อเรื่องบางเรื่องที่ยังไม่ได้รับคำตอบ และรอคอยคำตอบจากพระเจ้าอย่างไร?

พระคัมภีร์บันทึกว่า มีการกันดารอาหารเกิดขึ้นในกิลกาล และมีผลกระทบต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของทุกๆ คน รวมถึงผู้เผยพระวจนะ โดยเฉพาะในเมืองกิลกาลซึ่งน่าจะมีโรงเรียนสอนการเป็นผู้เผยพระวจนะอยู่ (ดู 2 พงศ์กษัตริย์ 2:1 และ 2 พงศ์กษัตริย์ 6:1-7 ประกอบ) เอลีชาบอกให้เกหะซีตั้งหม้อเพื่อต้มข้าวเลี้ยงผู้เผยพระวจนะจำนวน 100 คน (ข้อ 43) และมีผู้เผยพระวจนะบางคนได้ไปเก็บน้ำเต้าป่ามาใส่ในหม้อโดยไม่รู้ว่า น้ำเต้านั้นมีพิษ ในขณะเดียวกันก็มีคนนำขนมปังบารลี 20 ก้อน และข้าวใหม่ ซึ่งไม่น่าจะมาก (จากข้าวหนึ่งฟ่อน ดูเลวีนิติ 23:10 ประกอบ) ซึ่งไม่เพียงพอต่อคน 100 คน

Q1  เอลีชาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กับทั้ง 2 ปัญหาอย่างไร ทั้งอาหารที่เป็นพิษในหม้อ และ ขนมปังและข้าวที่คนเอามาให้มีจำนวนน้อยนิด? และผลที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร? (ดูข้อ 41, 43-44 ประกอบ)
Q2  สิ่งที่เอลีชากระทำ และพระวจนะของพระเจ้าที่ว่า “พระเจ้าทรงเลี้ยงดูข้าพเจ้าดุจเลี้ยงแกะ ข้าพเจ้าจะไม่ขัดสน” สดุดี 23:1 ช่วยให้คุณเรียนรู้ที่จะไว้วางใจในการดูแลของพระเจ้าอย่างไร?

3240/5062