“อด” หมายถึง ยอมอดจากสิ่งที่ตัวชอบด้วยความมุ่งหมายจะสร้างความดีหรือความเจริญให้ตน เช่น อดเที่ยวเพื่อดูหนังสือ อดเปรี้ยวไว้กินหวานเพื่อให้เหมาะกับเวลาและได้ประโยชน์มากขึ้น
“ทน” หมายถึง ทนต่อสิ่งที่ตนไม่ชอบ เพื่อทำตนให้เจริญขึ้น เช่น ทนร้อน ทนลำบาก ทนหิว ทนเหนื่อย
“อดทน” จึงหมายถึง การรักษาปกติภาวะของตนไว้ได้ไม่ว่าจะถูกกระทบกระทั่งด้วยสิ่งอันเป็นที่พึงปรารถนาหรือไม่พึงปรารถนาก็ตาม มีความมั่นคงหนักแน่นเหมือนแผ่นดินซึ่งไม่หวั่นไหวไม่ว่าจะมีคนเทอะไรลงไป ของเสีย ของหอม ของสกปรกหรือของดีงามก็ตาม
ในการดำเนินชีวิตคริสเตียนก็เช่นกัน การรู้จักบังคับตนเองในเรื่อง ความอดทนต่อการข่มเหง หรือความทุกข์ยากลำบากที่เกิดขึ้นในชีวิต ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเติบโตในความเชื่อ

Q1  เปโตรได้ให้หลักในการรู้จักบังคับตนในเรื่องการอดทนต่อความทุกข์ยากลำบากอย่างไรบ้าง? (ดูข้อ 6, 8, 9 สังเกตคำว่า “ใจ”)
Q2  จากประโยคที่ว่า “ยกท่านขึ้นเมื่อถึงเวลาอันควร” “เข้าในศักดิ์ศรีนิรันดร์” “โปรดปรับปรุงท่านให้มั่นคง” หนุนใจคุณอย่างไรในการรู้จักบังคับตนเองในเรื่องความอดทน

อารมณ์ หมายถึง การแสดงออกของภาวะจิตใจที่ได้รับการกระทบหรือกระตุ้นให้มีการแสดงออกต่อสิ่งที่มากระตุ้น อารมณ์มีอิทธิพลมากสำหรับมนุษย์ เพราะอารมณ์อาจเป็นต้นเหตุของสงคราม อาชญากรรม ความขัดแย้งเรื่องเชื้อชาติและความขัดแย้ง อื่นๆ อีกหลายชนิดระหว่างมนุษย์ด้วยกัน ในทางตรงกันข้ามอารมณ์เป็นเหมือนน้ำทิพย์ของชีวิต ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างสวยสดงดงามและน่าอภิรมย์เต็มไปด้วยความรัก ความสนุกสนาน ความเพลิดเพลิน ความพอใจ ดังนั้น การรู้จักบังคับตนเองในเรื่องของอารมณ์จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่เช่นนั้นผลที่ตามมาอาจจะคาดไม่ถึง เหมือนกับโมเสสที่จัดการกับอารมณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่ถูกประชาชนกล่าวหาว่าเป็นความผิดของโมเสสที่พาออกมาในทะเลทรายและไม่มีน้ำจะดื่ม จนโมเสสพูดอย่างมีอารมณ์ว่า “พวกเจ้ามาหาเรื่องเราทำไม”  และโมเสสก็บอกกับพระเจ้าว่า “ข้าพระองค์จะทำอย่างไรกับชนชาตินี้ดี เขาเกือบจะเอาหินขว้างข้าพระองค์ให้ตายอยู่แล้ว” (อพยพ 17:1-4)

Q1  หลังจากที่พระเจ้าบอกให้โมเสส “พูดสั่งหินให้หลั่งน้ำออกมา” (ข้อ 8) แต่ดูเหมือนว่า ด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัวโมเสสทำในสิ่งที่แตกต่างออกไปคือ? และผลลัพธ์ที่โมเสสได้รับจากการขาดการควบคุมตนเองในเรื่องอารมณ์คืออะไร? (ดูข้อ 11,12 ประกอบ)
Q2  คุณจะนำบทเรียนจากชีวิตของโมเสสมาใช้ในการรู้จักควบคุมอารมณ์ของคุณอย่างไร?

ดูเหมือนว่า สภาพสังคมในปัจจุบันที่เป็นสังคมของวัตถุนิยม ทำให้การรู้จักบังคับตนของคนเรายากมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มวัยรุ่น กลุ่มคนทำงาน คนรุ่นใหม่ ที่ขาดการยับยั้งชั่งใจ ขาดการรู้จักบังคับตนเอง จนชีวิตเต็มไปด้วยความเครียด ความวิตกกังวล และขาดความสุข เพราะต้องวิ่งตามโลกอยู่ตลอดเวลา ปัญหาเรื่องการควบคุมตนเองไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น และไม่ได้เป็นปัญหาแค่คนหนุ่มสาวเท่านั้น แต่ในคริสตจักรยุคแรกปัญหานี้ก็เป็นปัญหาใหญ่ จนยอห์นต้องเขียนจดหมายไปเตือนสติผู้เชื่อที่เป็นคนหนุ่มสาวและคนที่เป็นพ่อแม่ (ข้อ 13, 14)

Q1  ยอห์นได้บอกถึงผลเสียของการขาดการรู้จักบังคับตน จนหลงรักโลกใบนี้ (แนวความคิด / สิ่งของ) อย่างไร? (ดูข้อ 15, 16 ประกอบ)
Q2  อะไรคือเคล็ดลับที่ยอห์นแนะนำ ที่ทำให้รู้จักบังคับตนเองได้ดีมากขึ้น และคุณจะนำเคล็ดลับนี้ไปใช้ในชีวิตของคุณอย่างไร? (ดูข้อ 14, 17 ประกอบ)

“การรู้จักบังคับตน” ก็คือการควบคุมสิ่งที่มีอยู่ให้พอดีๆ ให้เหมาะสมถูกต้อง การรู้จักบังคับตนเปรียบเหมือนกับเบรกของรถยนต์ เมื่อขับรถบนทางด่วน คนขับทุกคนอยากวิ่งเร็วจึงมักจะใช้ความเร็วสูง แต่ถ้าใช้ความเร็วสูงเกินไป ก็คงอันตราย เมื่อเราใช้เส้นทาง บางครั้งเราจำเป็นต้องเลี้ยวขวาหรือเลี้ยวซ้าย บางครั้งกลับรถ และต้องหยุดทันที เมื่อเราเห็นป้ายที่เขียนไว้ว่าหยุด เรามักจะใช้เบรกเพื่อจะลดความเร็ว เมื่อเหยียบเบรก เบรกต้องทำงานอย่างดี และความเร็วต้องอยู่ในการควบคุม ถ้าไม่อย่างนั้น คงเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ชีวิตคริสเตียนก็เช่นเดียวกัน ทุกสิ่งในชีวิตคริสเตียนต้องอยู่ในการควบคุม เบรกในรถเป็นสิ่งจำเป็นมากฉันใด การรู้จักบังคับตนก็เป็นสิ่งจำเป็นมากฉันนั้น เราควรบังคับตนในเรื่องอะไรบ้าง จริงๆ แล้ว เราควรควบคุมทุกอย่างในชีวิตของเรา

Q1  พระคัมภีร์ตอนนี้พูดถึงการบังคับตนในด้านต่างๆ อย่างน้อย 5 ด้านด้วยกัน คือ? (ดูข้อ 27, 29, 30, 31, 32 ประกอบ)
Q2  คุณจะนำข้อพระคัมภีร์ที่สอนว่า “คนที่ปกครองจิตใจของตนเอง ก็ดีกว่าผู้ที่ตีเมืองได้” ไปใช้ในการควบคุมตนเองอย่างไร?

8 พระเจ้าจะทรงอารักขาการเข้าออกของท่านตั้งแต่กาลบัดนี้สืบไปเป็นนิตย์

Q1  อ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ช้าๆ 2-3 รอบ จนจำเนื้อหาได้ คำว่า “อารักขา” “กาลบัดนี้” และ “สืบไปเป็นนิตย์” เกี่ยวข้องกันอย่างไร?
Q2  การเข้าออกแปลตรงตัวว่า “การออกไปและการเข้ามา” เหมือนอย่างกองทหารที่ออกไปรบกับศัตรูและกลับเข้าเมืองอย่างปลอดภัย ทุกวันที่คุณออกไปทำงานและกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย คุณเห็นถึงการอารักขาของพระเจ้าในชีวิตของคุณอย่างไร?

3940/5066