วันพุธที่ 31 กรกฎาคม 1 เปโตร 5:6-11 “ทนทุกข์”
“อด” หมายถึง ยอมอดจากสิ่งที่ตัวชอบด้วยความมุ่งหมายจะสร้างความดีหรือความเจริญให้ตน เช่น อดเที่ยวเพื่อดูหนังสือ อดเปรี้ยวไว้กินหวานเพื่อให้เหมาะกับเวลาและได้ประโยชน์มากขึ้น
“ทน” หมายถึง ทนต่อสิ่งที่ตนไม่ชอบ เพื่อทำตนให้เจริญขึ้น เช่น ทนร้อน ทนลำบาก ทนหิว ทนเหนื่อย
“อดทน” จึงหมายถึง การรักษาปกติภาวะของตนไว้ได้ไม่ว่าจะถูกกระทบกระทั่งด้วยสิ่งอันเป็นที่พึงปรารถนาหรือไม่พึงปรารถนาก็ตาม มีความมั่นคงหนักแน่นเหมือนแผ่นดินซึ่งไม่หวั่นไหวไม่ว่าจะมีคนเทอะไรลงไป ของเสีย ของหอม ของสกปรกหรือของดีงามก็ตาม
ในการดำเนินชีวิตคริสเตียนก็เช่นกัน การรู้จักบังคับตนเองในเรื่อง ความอดทนต่อการข่มเหง หรือความทุกข์ยากลำบากที่เกิดขึ้นในชีวิต ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเติบโตในความเชื่อ
Q1 เปโตรได้ให้หลักในการรู้จักบังคับตนในเรื่องการอดทนต่อความทุกข์ยากลำบากอย่างไรบ้าง? (ดูข้อ 6, 8, 9 สังเกตคำว่า “ใจ”)
Q2 จากประโยคที่ว่า “ยกท่านขึ้นเมื่อถึงเวลาอันควร” “เข้าในศักดิ์ศรีนิรันดร์” “โปรดปรับปรุงท่านให้มั่นคง” หนุนใจคุณอย่างไรในการรู้จักบังคับตนเองในเรื่องความอดทน
วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม กันดารวิถี 20:1-13 “อารมณ์”
อารมณ์ หมายถึง การแสดงออกของภาวะจิตใจที่ได้รับการกระทบหรือกระตุ้นให้มีการแสดงออกต่อสิ่งที่มากระตุ้น อารมณ์มีอิทธิพลมากสำหรับมนุษย์ เพราะอารมณ์อาจเป็นต้นเหตุของสงคราม อาชญากรรม ความขัดแย้งเรื่องเชื้อชาติและความขัดแย้ง อื่นๆ อีกหลายชนิดระหว่างมนุษย์ด้วยกัน ในทางตรงกันข้ามอารมณ์เป็นเหมือนน้ำทิพย์ของชีวิต ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างสวยสดงดงามและน่าอภิรมย์เต็มไปด้วยความรัก ความสนุกสนาน ความเพลิดเพลิน ความพอใจ ดังนั้น การรู้จักบังคับตนเองในเรื่องของอารมณ์จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่เช่นนั้นผลที่ตามมาอาจจะคาดไม่ถึง เหมือนกับโมเสสที่จัดการกับอารมณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่ถูกประชาชนกล่าวหาว่าเป็นความผิดของโมเสสที่พาออกมาในทะเลทรายและไม่มีน้ำจะดื่ม จนโมเสสพูดอย่างมีอารมณ์ว่า “พวกเจ้ามาหาเรื่องเราทำไม” และโมเสสก็บอกกับพระเจ้าว่า “ข้าพระองค์จะทำอย่างไรกับชนชาตินี้ดี เขาเกือบจะเอาหินขว้างข้าพระองค์ให้ตายอยู่แล้ว” (อพยพ 17:1-4)
Q1 หลังจากที่พระเจ้าบอกให้โมเสส “พูดสั่งหินให้หลั่งน้ำออกมา” (ข้อ 8) แต่ดูเหมือนว่า ด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัวโมเสสทำในสิ่งที่แตกต่างออกไปคือ? และผลลัพธ์ที่โมเสสได้รับจากการขาดการควบคุมตนเองในเรื่องอารมณ์คืออะไร? (ดูข้อ 11,12 ประกอบ)
Q2 คุณจะนำบทเรียนจากชีวิตของโมเสสมาใช้ในการรู้จักควบคุมอารมณ์ของคุณอย่างไร?
วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม 1 ยอห์น 2:12-17 “อย่ารักโลก”
ดูเหมือนว่า สภาพสังคมในปัจจุบันที่เป็นสังคมของวัตถุนิยม ทำให้การรู้จักบังคับตนของคนเรายากมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มวัยรุ่น กลุ่มคนทำงาน คนรุ่นใหม่ ที่ขาดการยับยั้งชั่งใจ ขาดการรู้จักบังคับตนเอง จนชีวิตเต็มไปด้วยความเครียด ความวิตกกังวล และขาดความสุข เพราะต้องวิ่งตามโลกอยู่ตลอดเวลา ปัญหาเรื่องการควบคุมตนเองไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น และไม่ได้เป็นปัญหาแค่คนหนุ่มสาวเท่านั้น แต่ในคริสตจักรยุคแรกปัญหานี้ก็เป็นปัญหาใหญ่ จนยอห์นต้องเขียนจดหมายไปเตือนสติผู้เชื่อที่เป็นคนหนุ่มสาวและคนที่เป็นพ่อแม่ (ข้อ 13, 14)
Q1 ยอห์นได้บอกถึงผลเสียของการขาดการรู้จักบังคับตน จนหลงรักโลกใบนี้ (แนวความคิด / สิ่งของ) อย่างไร? (ดูข้อ 15, 16 ประกอบ)
Q2 อะไรคือเคล็ดลับที่ยอห์นแนะนำ ที่ทำให้รู้จักบังคับตนเองได้ดีมากขึ้น และคุณจะนำเคล็ดลับนี้ไปใช้ในชีวิตของคุณอย่างไร? (ดูข้อ 14, 17 ประกอบ)
วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม สุภาษิต 16:27-33 “ปกครองตนเอง”
“การรู้จักบังคับตน” ก็คือการควบคุมสิ่งที่มีอยู่ให้พอดีๆ ให้เหมาะสมถูกต้อง การรู้จักบังคับตนเปรียบเหมือนกับเบรกของรถยนต์ เมื่อขับรถบนทางด่วน คนขับทุกคนอยากวิ่งเร็วจึงมักจะใช้ความเร็วสูง แต่ถ้าใช้ความเร็วสูงเกินไป ก็คงอันตราย เมื่อเราใช้เส้นทาง บางครั้งเราจำเป็นต้องเลี้ยวขวาหรือเลี้ยวซ้าย บางครั้งกลับรถ และต้องหยุดทันที เมื่อเราเห็นป้ายที่เขียนไว้ว่าหยุด เรามักจะใช้เบรกเพื่อจะลดความเร็ว เมื่อเหยียบเบรก เบรกต้องทำงานอย่างดี และความเร็วต้องอยู่ในการควบคุม ถ้าไม่อย่างนั้น คงเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ชีวิตคริสเตียนก็เช่นเดียวกัน ทุกสิ่งในชีวิตคริสเตียนต้องอยู่ในการควบคุม เบรกในรถเป็นสิ่งจำเป็นมากฉันใด การรู้จักบังคับตนก็เป็นสิ่งจำเป็นมากฉันนั้น เราควรบังคับตนในเรื่องอะไรบ้าง จริงๆ แล้ว เราควรควบคุมทุกอย่างในชีวิตของเรา
Q1 พระคัมภีร์ตอนนี้พูดถึงการบังคับตนในด้านต่างๆ อย่างน้อย 5 ด้านด้วยกัน คือ? (ดูข้อ 27, 29, 30, 31, 32 ประกอบ)
Q2 คุณจะนำข้อพระคัมภีร์ที่สอนว่า “คนที่ปกครองจิตใจของตนเอง ก็ดีกว่าผู้ที่ตีเมืองได้” ไปใช้ในการควบคุมตนเองอย่างไร?
วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม สดุดี 121:5-8 “สืบไปเป็นนิตย์”
8 พระเจ้าจะทรงอารักขาการเข้าออกของท่านตั้งแต่กาลบัดนี้สืบไปเป็นนิตย์
Q1 อ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ช้าๆ 2-3 รอบ จนจำเนื้อหาได้ คำว่า “อารักขา” “กาลบัดนี้” และ “สืบไปเป็นนิตย์” เกี่ยวข้องกันอย่างไร?
Q2 การเข้าออกแปลตรงตัวว่า “การออกไปและการเข้ามา” เหมือนอย่างกองทหารที่ออกไปรบกับศัตรูและกลับเข้าเมืองอย่างปลอดภัย ทุกวันที่คุณออกไปทำงานและกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย คุณเห็นถึงการอารักขาของพระเจ้าในชีวิตของคุณอย่างไร?