ในสมัยของเยโฮชาฟัทได้เกิดการกันดารอาหารทั่วทั้งสะมาเรีย แถมเบนฮาดัดพระราชาแห่งซีเรียยังยกกองทัพมาล้อมกรุงสะมาเรียอีก ทำให้ประชาชนอดอยากขนาดที่ว่าต้องกินหัวลา และที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือ มีผู้หญิงบางคนกินลูกของตนเองเพื่อประทังชีวิต ทำให้เยโฮชาฟัทไม่พอใจ คิดว่า เหตุร้ายนี้มาจากพระเจ้า จึงคิดจะสังหารเอลีชา (ข้อ 30, 33) แต่เอลีชาได้พยากรณ์ว่า ในวันพรุ่งนี้พระเจ้าจะทรงจัดการกับกองทัพซีเรีย และจะมีอาหารขายกันอย่างแสนถูก ทุกคนจะไม่อดอยากอีกต่อไป และแน่นอนว่ามีคนไม่เชื่อในคำพูดของเอลีชา
Q1 คนโรคเรื้อนสี่คนเป็นตัวแทนของคนที่เชื่อในคำพูดของเอลีชา ส่วนนายทหารคนของเยโฮชาฟัทเป็นตัวแทนของคนที่ไม่เชื่อ ถึงแม้ทั้งคู่ได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าแต่อะไรคือสิ่งที่แตกต่างกัน? (ดูข้อ 2, 8, 16-20 ประกอบ)
Q2 “เราทำไม่ถูกเสียแล้ว วันนี้เป็นวันข่าวดี ถ้าเรานิ่งอยู่ และรอคอยแสงอรุณขึ้น โทษจะตกอยู่กับเรา เพราะฉะนั้นมาเถิดให้เราไปบอกยังสำนักพระราชวัง” นี่คือคำพูดของคนโรคเรื้อน เช่นเดียวกับคุณที่มีข่าวดีเรื่องพระเยซูคริสต์ ลองคิดถึงคนที่คุณรู้จัก และตั้งใจว่าจะไปเล่าเรื่องพระเยซูคริสต์ให้เขาฟัง