ยูดากลับมาหนุนใจพี่น้องในความเชื่ออีกครั้ง โดยเรียกร้องให้พวกเขาหันกลับมายึดมั่นในคำสอนของเหล่าอัครทูต ที่ได้บอกแล้วว่า ในยุคสุดท้ายจะมี คนที่สอนผิดเกิดขึ้นในคริสตจักร เรื่องนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และจะห้ามไม่ให้เกิดก็ไม่ได้ ดังนั้นผู้เชื่อจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับปัญหานี้

Q1  ยูดาได้แนะนำพี่น้องให้เตรียมตัวรับมือกับคนสอนผิด และคำสอนผิดที่จะเข้ามาในคริสตจักร และในชีวิตของผู้ที่เชื่ออย่างไร? (ดูข้อ 20-23 ประกอบ สังเกตคำว่า “จง…”)
Q2  คุณคิดว่า คุณต้องการ “จง…” อันไหนมากที่สุดใน “7 จง…” เพือจะเตรียมตัวรับมือกับคำสอนผิด?

ยูดาได้อ้างถึงคำพยากรณ์ของเอโนค ซึ่งเป็นบุคคลที่ปฐมกาล 5:24 ได้บันทึกเกี่ยวกับตัวของท่านไว้อย่างน่าสนใจดังนี้ “เอโนคดำเนินกับพระเจ้า แล้วหายหน้าไป เพราะพระเจ้าทรงรับเขาไป”

Q1  เอโนคได้พยากรณ์ถึงเหตุการณ์สุดท้ายที่คนสอนผิด (ทุรชน) จะได้รับคือสิ่งใด? (ดูข้อ 15 ประกอบ)
Q2  ยูดาได้บอกถึงบุคลิก และลักษณะของคนสอนผิดอย่างไร? (ดูข้อ 16 ประกอบ) คุณจะนำสิ่งนี้มาใช้ในประเมินดูว่า คนไหนสอนผิด คนไหนสอนถูกอย่างไร?

ยูดาหันกลับมาพูดถึงคนที่สอนผิดโดยที่ใช้คำที่ค่อนข้างรุนแรงในข้อ 10 ว่า “แต่ว่าคนเหล่านี้พูดก้าวร้าวสิ่งที่เขาเองไม่เข้าใจ และการซึ่งเขารู้สึกตามสัญชาตญาณ เหมือนสัตว์เดียรัจฉานที่ไม่มีความคิด เขาก็ต้องถึงหายนะด้วยการนั้น” คนเหล่านี้ทำในสิ่งที่ผิดพลาดเหมือนกับมาร เหมือนคาอิน เหมือนบาลาอัม และโคราห์

Q1  ยูดาเรียกคนเหล่านี้โดยใช้คำเปรียบเทียบที่ค่อนข้างจะรุนแรงถึง 7 แบบด้วยกันคือ

1…………………………………………. (ข้อ 12ก)          2…………………………………………. (ข้อ 12ข)

3…………………………………………. (ข้อ 12ค)          4…………………………………………. (ข้อ 12ง)

5…………………………………………. (ข้อ 13ก)          6…………………………………………. (ข้อ 13ข)

7…………………………………………. (ข้อ 13ค)

Q2        คำว่า “หายนะ” “วิบัติ” “พินาศ” และ “ตกอยู่ในความมืดทึบตลอดกาล” คือ ผลลัพธ์ของคนที่สอนผิด และคนที่เชื่อในคำสอนผิด คำเหล่านี้เตือนสติคุณในการระมัดระวัง และป้องกันเกี่ยวกับคำสอนผิดที่จะเข้ามาในโบสถ์ ในครอบครัว ในชีวิตของคุณอย่างไร?

ยูดาได้เตือนสติคริสตจักร และผู้ที่เชื่อว่า ความผิดบาปที่ผลลัพธ์ของมัน เหมือนกับโรม 6:23 ที่ว่า “เพราะว่าค่าจ้างของความบาปคือความตาย” และคนที่ทำบาปและหลงระเริงอยู่ในความผิดบาปจะต้องได้รับการพิพากษาจากพระเจ้า

Q1  ยูดาได้ยกตัวอย่างเพื่อแสดงให้เห็นว่า คนที่ทำบาปจะต้องรับผลของมัน ถึง 3 ตัวอย่างด้วยกันคือ? (ดูข้อ 5, 6, 7 ประกอบ)
Q2  มีการกระทำ 3 อย่างที่นำไปสู่การลงโทษคือ “ไม่เชื่อพระเจ้า” (ข้อ 5) “ไม่พอใจอธิปไตยของพระเจ้า” (ข้อ 6) และ “ประพฤติชั่วและมัวเมาในกามวิตถาร” (ข้อ 7) คุณมีความเสี่ยงที่จะกระทำในสิ่งใดบ้างใน 3 สิ่งนี้ อธิษฐานขอกำลังจากพระเจ้าที่คุณจะอยู่ห่างไกลจากสิ่งเหล่านี้
ปล.อธิปไตย หมายถึง อำนาจปกครองสูงสุด

ยูดาเริ่มต้นจดหมายของท่านอย่างตรงไปตรงมา โดยพูดถึงคำสอนผิดที่เข้ามาในคริสตจักร ในชุมชนของผู้ที่เชื่ออยู่ในเวลานั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายมาก โดยเฉพาะการบิดเบือนเรื่องของความรอด

Q1  จากคำว่า “ความรอด” “หลักคำสอนที่เชื่อกันอยู่” “ครั้งเดียวเป็นพอ” “พระคุณ” “ทำความชั่วช้าลามก” “ปฏิเสธพระเยซูคริสต์” และ “แต่องค์เดียว” ช่วยให้เราเห็นถึงการบิดเบือนในคำสอนเกี่ยวกับความรอดอย่างไร?
Q2  วันนี้คุณได้เอา “พระคุณของพระเจ้า” มาเป็นเหตุให้เราทำบาปมากขึ้น เหมือนกับที่เปาโลได้เตือนสติไว้ใน โรม 6:15 ที่ว่า “ถ้าเช่นนั้นจะเป็นอย่างไรต่อไป เราจะทำบาปเพราะมิได้อยู่ใต้ธรรมบัญญัติ แต่อยู่ใต้พระคุณกระนั้นหรือ ก็อย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย” อธิษฐานของพระเจ้าช่วยเหลือคุณที่จะดำเนินชีวิตในพระคุณของพระเจ้า และไม่กระทำบาปอีก