6 เพราะฉะนั้น ขอให้ธรรมิกชนทุกคนอธิษฐานต่อพระองค์ ในเวลาที่จะพบพระองค์ได้ ในเวลาน้ำท่วมมาก น้ำจะไม่มาถึงคนนั้น
7 พระองค์ทรงเป็นที่ซ่อนของข้าพระองค์ พระองค์ทรงสงวนข้าพระองค์ไว้จากความยากลำบากพระองค์ทรงล้อมข้าพระองค์ไว้ด้วยเพลงฉลองการช่วยกู้

Q1  อ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ช้าๆ 2-3 รอบ จดจ่ออยู่กับคำว่า “ธรรมิกชน” “อธิษฐาน” “ในเวลาที่จะพบพระองค์ได้” “ในเวลาน้ำท่วมมาก” “เป็นที่ซ่อน” “สงวนข้าพระองค์ไว้” “ล้อมข้าพระองค์” และ “การช่วยกู้” คำเหล่านี้ช่วยให้คุณเห็นถึงฤทธิอำนาจของคำอธิษฐานอย่างไร?
Q2  ข้อพระคัมภีร์ในยากอบ 5:16ข. ที่ว่า “คำอธิษฐานของผู้ชอบธรรมนั้นมีพลังทำให้เกิดผล” จะเป็นจริงในชีวิตของคุณได้อย่างไร เพราะตัวคุณเองก็เป็น “ธรรมิกชน” เป็น “ผู้ชอบธรรม” เช่นกัน?

3 เมื่อข้าพระองค์ไม่แจ้งบาปของข้าพระองค์ ร่างกายของข้าพระองค์ก็ร่วงโรยไป โดยการคร่ำครวญวันยังค่ำของข้าพระองค์
4 พระหัตถ์ของพระองค์หนักอยู่บนข้าพระองค์ทั้งวันทั้งคืน กำลังของข้าพระองค์ก็เหี่ยวแห้งไปอย่างความร้อนในหน้าแล้ง
5 ข้าพระองค์สารภาพบาปของข้าพระองค์ต่อพระองค์ และข้าพระองค์มิได้ซ่อนบาปผิดของข้าพระองค์ไว้ ข้าพระองค์ทูลว่า
“ข้าพระองค์จะสารภาพการละเมิดของข้าพระองค์ต่อพระเจ้า” แล้วพระองค์ทรงยกโทษบาปของข้าพระองค์

Q1  อ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ช้าๆ 2-3 รอบ จดจ่ออยู่กับคำว่า “ไม่แจ้งบาป” “ร่วงโรย” “การคร่ำครวญ” “หนักอยู่บนข้าพระองค์” “ทั้งกลางวันกลางคืน” “เหี่ยวแห้ง” และ “หน้าแล้ง” คำเหล่านี้ช่วยให้คุณเข้าใจข้อพระคัมภีร์ที่ว่า “เพราะว่าค่าจ้างของความบาปคือความตาย” (โรม 6:23) มากขึ้นอย่างไร?
Q2  พระเยซูทรงจ่ายค่าจ้างของ “ความบาปของคุณ” ด้วย “ความตายของพระองค์” ถึงเวลาหรือยังที่คุณจะสารภาพความบาปของคุณกับพระองค์ อ่าน 1 ยอห์น 1:9-10 และใช้เวลานี้สำหรับการอธิษฐาน

1 บุคคลผู้ซึ่งได้รับอภัยการละเมิดแล้วก็เป็นสุข คือผู้ทรงกลบเกลื่อนบาปให้นั้น
2 บุคคลซึ่งพระเจ้ามิได้ทรงถือโทษก็เป็นสุข คือผู้ที่ไม่มีการหลอกลวงในใจของเขา

Q1  อ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ช้าๆ 2-3 รอบ จดจ่ออยู่กับคำว่า“บุคคลใด” “พระเจ้า” “รับอภัยการละเมิด” “มิได้ทรงถือโทษ” “กลบเกลื่อนบาป” “ไม่มีการหลอกลวง” และ“เป็นสุข” คำเหล่านี้ช่วยให้คุณเห็นขั้นตอนในการ“มีชีวิตที่มีความสุข” อย่างไร? และ “ใคร” คือผู้ที่สามารถประทานความสุขให้กับเราได้?
Q2  ชีวิตของคุณที่ไม่มีความสุขเป็นเพราะคุณยังมีบาปบางอย่างที่คุณยัง “กลบเกลื่อนอยู่” หรือ คุณหลอกตัวเองว่า “ไม่เป็นไรหรอก บาปเล็กๆ น้อย พระเจ้าไม่ถือสาอะไรหรอก” หรือเปล่า?

6 – 12 ธันวาคม ใคร่ครวญ : สดุดี 32
การมีเวลาหยุดพักเพื่อจะทบทวนชีวิตเป็นระยะๆ เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะจะทำให้เรารู้ว่า ชีวิตของเราเป็นอย่างไร มีบางสิ่งบางอย่างที่ขาดตกบกพร่อง ต้องแก้ไขอะไรบ้าง หรือมีบางสิ่งบางอย่างที่เกินเลยความพอดีหรือไม่ โดยเฉพาะในชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณ สิ่งที่ขาดไปหรือสิ่งที่มีมากเกินไปในชีวิต อาจจะทำให้เราห่างไกลจากพระเจ้า ทำความผิดบาป และหลงหายไปจากพระเจ้าได้ สิ่งเดียวที่จะทำให้เรากลับมาใกล้ชิดกับพระเจ้า และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพระเจ้าอีกครั้งคือ “การสารภาพบาป และการได้รับการอภัย” ในสัปดาห์นี้เราจะมาใคร่ครวญจากพระธรรมสดุดี 32

วันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม             สดุดี 32:1-11

ในการใคร่ครวญ คุณจำเป็นจะต้องเข้าใจถึงภาพโดยรวมของพระคัมภีร์ตอนนั้น รวมทั้งมีจิตใจที่สงบ ดังนั้นใช้เวลานี้สงบใจลงต่อพระพักตร์ของพระเจ้า อธิษฐานขอพระเจ้าคุณมีสติ มีความตั้งใจ และมีความจดจ่อต่อพระวจนะของพระเจ้าที่คุณกำลังใคร่ครวญตลอดสัปดาห์นี้

1 บุคคลผู้ซึ่งได้รับอภัยการละเมิดแล้วก็เป็นสุข คือผู้ทรงกลบเกลื่อนบาปให้นั้น
2 บุคคลซึ่งพระเจ้ามิได้ทรงถือโทษก็เป็นสุขคือผู้ที่ไม่มีการหลอกลวงในใจของเขา
3 เมื่อข้าพระองค์ไม่แจ้งบาปของข้าพระองค์ ร่างกายของข้าพระองค์ก็ร่วงโรยไป โดยการคร่ำครวญวันยังค่ำของข้าพระองค์
4 พระหัตถ์ของพระองค์หนักอยู่บนข้าพระองค์ทั้งวันทั้งคืน กำลังของข้าพระองค์ก็เหี่ยวแห้งไปอย่างความร้อนในหน้าแล้ง
5 ข้าพระองค์สารภาพบาปของข้าพระองค์ต่อพระองค์ และข้าพระองค์มิได้ซ่อนบาปผิดของข้าพระองค์ไว้ ข้าพระองค์ทูลว่า
“ข้าพระองค์จะสารภาพการละเมิดของข้าพระองค์ต่อพระเจ้า” แล้วพระองค์ทรงยกโทษบาปของข้าพระองค์
6 เพราะฉะนั้น ขอให้ธรรมิกชนทุกคนอธิษฐานต่อพระองค์ ในเวลาที่จะพบพระองค์ได้ ในเวลาน้ำท่วมมาก น้ำจะไม่มาถึงคนนั้น
7 พระองค์ทรงเป็นที่ซ่อนของข้าพระองค์ พระองค์ทรงสงวนข้าพระองค์ไว้จากความยากลำบาก พระองค์ทรงล้อมข้าพระองค์ไว้ด้วยเพลงฉลองการช่วยกู้
8 เราจะแนะนำและสอนเจ้าถึงทางที่เจ้าควรจะเดินไป เราจะให้คำปรึกษาแก่เจ้าด้วยจับตาเจ้าอยู่
9 อย่าเป็นเหมือนม้าหรือล่อ ที่ปราศจากความเข้าใจ ซึ่งต้องติดสายผ่าปากและบังเหียน มิฉะนั้นมันก็ไม่ไปกับเจ้า
10 อันความทุกข์ของคนอธรรมนั้นมีมาก แต่ความรักมั่นคงจะล้อมบุคคลที่วางใจในพระเจ้า
11 ข้าแต่คนชอบธรรม จงยินดีในพระเจ้าและเปรมปรีดิ์ บรรดาท่านผู้มีใจเที่ยงตรง จงโห่ร้องเถิด

Q1  อธิษฐาน และอ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ช้า 2-3 รอบ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะได้รับบทเรียนอะไรบ้าง ค่อยๆ ปล่อยให้ความคิดของคุณไหลไปกับพระคำของพระเจ้าที่คุณได้อ่านไป
Q2  อธิษฐานขอบคุณพระเจ้าสำหรับพระคัมภีร์ตอนนี้ และขอพระเจ้าทรงช่วยเหลือคุณในการใคร่ครวญพระคัมภีร์ตอนนี้ตลอดสัปดาห์

เปโตรยังเป็นเปโตรที่คิดไว พูดไว เปโตรอาจจะสงสัยว่า ทำไมตัวเขาต้องถูกถามถึง 3 ครั้ง ในขณะที่สาวกคนอื่นๆ ไม่ถูกถาม โดยเฉพาะสาวกคนที่พระเยซูรัก เปโตรก็อยากจะรู้ถึงอนาคตของสาวกคนนี้ด้วยว่า จะเป็นอย่างไร

Q1  พระเยซูตอบสนองต่อคำถามของซีโมนเปโตรที่มีต่อสาวกคนที่พระองค์รักอย่างไร? (ดูข้อ 22-23 ประกอบ)
Q2  หลายเรื่องที่เราอาจจะไม่มีคำตอบเหมือนอย่างที่พระเยซูบอกับเปโตรว่า “จะเป็นเรื่องอะไรของเจ้า” และมีอีกหลายเรื่องที่มีคำตอบแต่ไม่ได้ถูกบันทึกไว้ เหมือนที่ยอห์นได้บอกว่า ถ้าจะเขียนสิ่งที่พระเยซูกระทำ โลกใบนี้ทั้งใบก็ไม่มีที่พอสำหรับหนังสือ แต่สิ่งหนึ่งที่มีคำตอบแน่นอนคือ “คำพยานที่เขียนเกี่ยวกับพระเยซูตั้งแต่ในยอห์นบทที่ 1 ข้อ 1 จนถึงข้อสุดท้ายนี้เป็นความจริง” ชีวิตของคุณจะเป็น “พยาน” เกี่ยวกับพระเยซูตั้งแต่วันแรกที่คุณต้อนรับพระองค์ จนถึงวันที่คุณจากโลกใบนี้ได้อย่างไร?

3075/5067