วันอังคารที่ 10 กันยายน 2 ซามูเอล 7:20-21 “สิ่งใหญ่โต”
ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงรู้จักผู้รับใช้ของพระองค์ ที่พระองค์ทรงกระทำสิ่งใหญ่โตนี้ทั้งสิ้นเพื่อให้ผู้รับใช้ของพระองค์ทราบ ก็เพราะพระสัญญาของพระองค์และตามชอบพระทัยของพระองค์
Q1 อ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ช้าๆ 2-3 รอบ จนจำเนื้อหาได้ คำว่า “กระทำสิ่งใหญ่โต” “เพื่อให้…ทราบ” “พระสัญญา” และ “ชอบพระทัย” เกี่ยวข้องกันอย่างไร?
Q2 อะไรคือ “สิ่งที่ใหญ่โต” ที่พระเจ้าทรงกระทำในชีวิตของคุณ? ใช้เวลานี้อธิษฐานขอบคุณพระเจ้าสำหรับสิ่งนั้น
วันจันทร์ที่ 9 กันยายน 2 ซามูเอล 7:18-19 “ข้าพระองค์เป็นผู้ใดเล่า”
“ข้าแต่พระเจ้าข้าพระองค์เป็นผู้ใดเล่าและพงศ์พันธุ์ของข้าพระองค์เป็นผู้ใด พระองค์จึงทรงนำข้าพระองค์มาไกลถึงแค่นี้ ข้าแต่พระเจ้าแต่นี่ก็เป็นสิ่งเล็กน้อยในสายพระเนตรของพระองค์ และพระองค์ทรงลั่นพระวาจาถึงราชวงศ์ของข้าพระองค์ในอนาคตอันไกลนั้น ข้าแต่พระเจ้าและทั้งนี้ตามวิสัยของมนุษย์”
Q1 อ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ช้าๆ 2-3 รอบ จนจำเนื้อหาได้ คุณคิดว่า ตอนที่ดาวิดอธิษฐานถ้อยคำเหล่านี้ออกไป อารมณ์และความรู้สึกของดาวิดที่มีต่อพระเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?
Q2 สำหรับชีวิตของคุณ พระเจ้าทรงนำคุณมาไกลแค่ไหนแล้ว นับจากวันที่คุณเชื่อพระเจ้า?
วันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน 2 ซามูเอล 7:1-29 “พันธสัญญาของพระเจ้าที่ทรงมีต่อดาวิด”
Q1 อ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ช้าๆ สัก 2–3 รอบเพื่อจะรู้ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลานั้น ก่อนที่ดาวิดจะอธิษฐานกับพระเจ้าโดยไม่ต้องกังวลว่าจะได้รับบทเรียนอะไรบ้าง ค่อยๆ ปล่อยให้ความคิดของคุณไหลไปกับพระคำของพระเจ้าที่คุณได้อ่านไป
Q2 อธิษฐานขอบคุณพระเจ้าสำหรับพระคัมภีร์ตอนนี้
วันเสาร์ที่ 7 กันยายน 2 โครินธ์ 13:1-14 “ความในใจ”
ในตอนท้ายของหนังสือ เปาโลยังยืนยันในการกระทำของตนเองว่า เป็นการกระทำด้วยความรักและความจริงใจ ไม่ว่าจะเป็นการประกาศข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซูคริสต์ความสัตย์ซื่อในการรับใช้พระเจ้าการดำเนินชีวิตที่ไม่เป็นภาระของผู้อื่น การสอนที่อยู่บนพื้นฐานของพระคัมภีร์ การเตือนสติที่ตรงไปตรงมา รวมถึงการดำเนินชีวิตที่เป็นแบบอย่าง
Q1 อะไรคือเป้าหมายสูงสุดที่เปาโลอยากจะเห็นในชีวิตของผู้ที่เชื่อในเมืองโครินธ์? (ดูข้อ 5-9 ประกอบ)
Q2 อะไรคือ ”ฤทธิ์เดชของพระเจ้า” ที่เปาโลพูดถึงในข้อ 3-4 ที่กำลังเกิดผลในชีวิตของคุณ?
วันศุกร์ที่ 6 กันยายน 2 โครินธ์ 11:1-15 “ผู้ที่สอนผิด”
เป็นอีกครั้งที่เปาโลพูดถึง “ผู้ที่สอนผิด” ที่อยู่ในเมืองโครินธ์ ซึ่งเปาโลเรียกคนเหล่านี้ด้วยถ้อยคำที่รุนแรงว่า เป็น ”คนรับใช้ของซาตาน” ที่ปลอมตัวมาเป็นผู้รับใช้ของความชอบธรรม (ข้อ 15) และเปาโลเรียกร้องให้พี่น้องที่เมืองโครินธ์ให้ระมัดระวังคำสอนของคนเหล่านั้น
Q1 เปาโลได้บรรยายถึงลักษณะของคนที่สอนผิดอย่างไรบ้าง? (ดูข้อ 4, 6, 7, 8, 9, 12 ประกอบ
หมายเหตุ ในที่นี่เปาโลได้ใช้ภาษาที่ค่อนข้างจะเสียดสีเพื่อแสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจต่อผู้ที่สอนผิด)
Q2 คุณจะใช้ 1 ยอห์น 4:1-3 ที่ว่า “1ท่านที่รักทั้งหลายอย่าเชื่อวิญญาณเสียทุกๆ วิญญาณแต่จงพิสูจน์วิญญาณนั้นๆ ว่า มาจากพระเจ้าหรือไม่ เพราะว่ามีผู้พยากรณ์เท็จเป็นอันมากจาริกไปในโลก 2 โดยข้อนี้ท่านทั้งหลายก็จะรู้จักพระวิญญาณของพระเจ้าคือวิญญาณทั้งปวงที่ยอมรับว่าพระเยซูคริสต์ได้เสด็จมาเป็นมนุษย์วิญญาณนั้นก็มาจากพระเจ้า 3 และวิญญาณทั้งปวงที่ไม่ยอมรับเชื่อพระเยซูวิญญาณนั้นก็ไม่ได้มาจากพระเจ้าวิญญาณนั้นแหละเป็นปฏิปักษ์ของพระคริสต์ ซึ่งท่านทั้งหลายได้ยินว่าจะมาและบัดนี้ก็อยู่ในโลกแล้ว” ในการพิสูจน์คำสอนของพระเจ้าว่า เป็นคำสอนที่ถูก หรือผิด ได้อย่างไร?