วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม ยูดา 3-4 “พระคุณพระเจ้า”
ยูดาเริ่มต้นจดหมายของท่านอย่างตรงไปตรงมา โดยพูดถึงคำสอนผิดที่เข้ามาในคริสตจักร ในชุมชนของผู้ที่เชื่ออยู่ในเวลานั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายมาก โดยเฉพาะการบิดเบือนเรื่องของความรอด
Q1 จากคำว่า “ความรอด” “หลักคำสอนที่เชื่อกันอยู่” “ครั้งเดียวเป็นพอ” “พระคุณ” “ทำความชั่วช้าลามก” “ปฏิเสธพระเยซูคริสต์” และ “แต่องค์เดียว” ช่วยให้เราเห็นถึงการบิดเบือนในคำสอนเกี่ยวกับความรอดอย่างไร?
Q2 วันนี้คุณได้เอา “พระคุณของพระเจ้า” มาเป็นเหตุให้เราทำบาปมากขึ้น เหมือนกับที่เปาโลได้เตือนสติไว้ใน โรม 6:15 ที่ว่า “ถ้าเช่นนั้นจะเป็นอย่างไรต่อไป เราจะทำบาปเพราะมิได้อยู่ใต้ธรรมบัญญัติ แต่อยู่ใต้พระคุณกระนั้นหรือ ก็อย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย” อธิษฐานของพระเจ้าช่วยเหลือคุณที่จะดำเนินชีวิตในพระคุณของพระเจ้า และไม่กระทำบาปอีก
วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม ยูดา 1-2 “ผู้รับใช้ของพระคริสต์”
13 – 19 ธันวาคม พระคัมภีร์ : ยูดา
หนังสือยูดา เป็นหนังสือที่มีแค่บทเดียวเหมือนกับ 2 ยอห์น, 3 ยอห์น ซึ่งเชื่อว่า ผู้ที่เขียนหนังสือเล่มนี้คือ ยูดาสน้องชายของพระเยซู (มัทธิว 13:55, มาระโก 6:3) เพราะผู้เขียนไม่ได้อ้างตัวว่าเป็นอัครทูต และในข้อ 1ผู้เขียนได้อ้างตนเองว่า เป็นน้องชายของยากอบ ซึ่งก็เป็นผู้เขียนหนังสือยากอบและเป็นน้องชายของพระเยซู หนังสือยูดาเขียนขึ้นประมาณ ค.ศ. 65-67 เนื้อหาส่วนใหญ่ในหนังสือยูดาเป็นการพูดให้ระวังเกี่ยวกับการสอนผิดที่กำลังแผ่กระจายอยู่ในเวลานั้น เพราะมีผู้เชื่อที่ละทิ้งพระเจ้าเพราะคำสอนผิดๆ มากขึ้น ส่วนผู้รับไม่ได้เจาะจงว่าเป็นผู้หนึ่งผู้ใดหรือคริสตจักรในคริสตจักรหนึ่ง เป็นหนังสือสำหรับผู้ที่เชื่อทุกคน
วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม ยูดา 1-2 “ผู้รับใช้ของพระคริสต์”
ทั้งยากอบและยูดาไม่ได้อ้างการเป็นน้องชายของพระเยซูเพื่อให้รับสิทธิพิเศษ ในทางตรงกันข้ามยูดาได้สำแดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ตัวท่านรู้ว่า “พระเยซูคือผู้ใด” และ “ตัวของท่านคือผู้ใด”
Q1 ยูดาแนะตัวเองว่าเป็นใคร? และคำทักทายของท่านสะท้อนให้เห็นถึงการยอมรับพระเยซูในฐานะของ “องค์พระผู้เป็นเจ้า” อย่างไร? (ดูข้อ 1 ,2 ประกอบ)
Q2 คุณรู้หรือไม่ว่า ตัวคุณเองก็เป็น “ผู้รับใช้ของพระคริสต์” เพราะในมัทธิว 28:19-20 พระเยซูได้ทรงตรัสสั่งไว้ว่า “19 เหตุฉะนั้นเจ้าทั้งหลายจงออกไปสั่งสอนชนทุกชาติ ให้เป็นสาวกของเรา ให้รับบัพติศมาในพระนามแห่งพระบิดา พระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์ 20 สอนเขาให้ถือรักษาสิ่งสารพัดซึ่งเราได้สั่งพวกเจ้าไว้ นี่แหละเราจะอยู่กับเจ้าทั้งหลายเสมอไป จนกว่าจะสิ้นยุค” วันนี้คุณได้ทำหน้าที่ของผู้รับใช้ของพระคริสต์อย่างไร?
วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม สดุดี 32:1-11
1 บุคคลผู้ซึ่งได้รับอภัยการละเมิดแล้วก็เป็นสุข คือผู้ทรงกลบเกลื่อนบาปให้นั้น
2 บุคคลซึ่งพระเจ้ามิได้ทรงถือโทษก็เป็นสุขคือผู้ที่ไม่มีการหลอกลวงในใจของเขา
3 เมื่อข้าพระองค์ไม่แจ้งบาปของข้าพระองค์ ร่างกายของข้าพระองค์ก็ร่วงโรยไป โดยการคร่ำครวญวันยังค่ำของข้าพระองค์
4 พระหัตถ์ของพระองค์หนักอยู่บนข้าพระองค์ทั้งวันทั้งคืน กำลังของข้าพระองค์ก็เหี่ยวแห้งไปอย่างความร้อนในหน้าแล้ง
5 ข้าพระองค์สารภาพบาปของข้าพระองค์ต่อพระองค์ และข้าพระองค์มิได้ซ่อนบาปผิดของข้าพระองค์ไว้ ข้าพระองค์ทูลว่า
“ข้าพระองค์จะสารภาพการละเมิดของข้าพระองค์ต่อพระเจ้า” แล้วพระองค์ทรงยกโทษบาปของข้าพระองค์
6 เพราะฉะนั้น ขอให้ธรรมิกชนทุกคนอธิษฐานต่อพระองค์ ในเวลาที่จะพบพระองค์ได้ ในเวลาน้ำท่วมมาก น้ำจะไม่มาถึงคนนั้น
7 พระองค์ทรงเป็นที่ซ่อนของข้าพระองค์ พระองค์ทรงสงวนข้าพระองค์ไว้จากความยากลำบากพระองค์ทรงล้อมข้าพระองค์ไว้ด้วยเพลงฉลองการช่วยกู้
8 เราจะแนะนำและสอนเจ้าถึงทางที่เจ้าควรจะเดินไป เราจะให้คำปรึกษาแก่เจ้าด้วยจับตาเจ้าอยู่
9 อย่าเป็นเหมือนม้าหรือล่อ ที่ปราศจากความเข้าใจ ซึ่งต้องติดสายผ่าปากและบังเหียน มิฉะนั้นมันก็ไม่ไปกับเจ้า
10 อันความทุกข์ของคนอธรรมนั้นมีมาก แต่ความรักมั่นคงจะล้อมบุคคลที่วางใจในพระเจ้า
11 ข้าแต่คนชอบธรรม จงยินดีในพระเจ้าและเปรมปรีดิ์ บรรดาท่านผู้มีใจเที่ยงตรง จงโห่ร้องเถิด
Q1 อ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ทั้งหมดอีกครั้ง 2-3 รอบช้าๆ และลองทบทวนดูว่า มีบทเรียนอะไรบ้างที่พระเจ้าสอนคุณตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ลองเขียนออกมาเป็นข้อๆ
Q2 อธิษฐานขอบคุณพระเจ้าสำหรับพระคัมภีร์ตอนนี้ และพระพรที่คุณได้รับตลอดสัปดาห์
วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม สดุดี 32:10-11 “ยินดีในพระเจ้า”
10 อันความทุกข์ของคนอธรรมนั้นมีมาก แต่ความรักมั่นคงจะล้อมบุคคลที่วางใจในพระเจ้า
11 ข้าแต่คนชอบธรรม จงยินดีในพระเจ้าและเปรมปรีดิ์ บรรดาท่านผู้มีใจเที่ยงตรง จงโห่ร้องเถิด
Q1 อ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ช้าๆ 2-3 รอบ จดจ่ออยู่กับคำว่า “ความทุกข์” “คนอธรรม” “ความรัก” “คนที่ไว้วางใจ” “คนชอบธรรม” “ยินดีในพระเจ้า” “เปรมปรีดิ์” และ“โห่ร้อง” คำเหล่านี้ช่วยให้เราเห็นถึงความแตกต่างในชีวิตระหว่างคนที่เชื่อพระเจ้า และคนที่ไม่เชื่อพระเจ้าอย่างไร?
Q2 “จงชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าทุกเวลา ข้าพเจ้าขอย้ำอีกครั้งว่า จงชื่นชมยินดีเถิด” ฟีลิปปี 4:4 พระคัมภีร์ข้อนี้จะเป็นจริงในชีวิตของคุณอย่างไร?
วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม สดุดี 32:8-9 “คำแนะนำ”
8 เราจะแนะนำและสอนเจ้าถึงทางที่เจ้าควรจะเดินไป เราจะให้คำปรึกษาแก่เจ้าด้วยจับตาเจ้าอยู่
9 อย่าเป็นเหมือนม้าหรือล่อ ที่ปราศจากความเข้าใจ ซึ่งต้องติดสายผ่าปากและบังเหียน มิฉะนั้นมันก็ไม่ไปกับเจ้า
Q1 อ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ช้าๆ 2-3 รอบ จดจ่ออยู่กับคำว่า “แนะนำ” “สอน” “คำปรึกษา” “ทาง” “ควรจะเดินไป” “อย่าเป็นเหมือนม้าหรือล่อ” “ปราศจากความเข้าใจ” และ “บังเหียน” คำเหล่านี้ช่วยให้เราเห็นถึงวิธีการที่พระเจ้าจะช่วยเหลือผู้ที่เชื่อในยามที่เผชิญหน้ากับปัญหาที่เข้ามาในชีวิตอย่างไร?
Q2 โฮเชยา 4:6 เขียนไว้ว่า “ประชากรของเราถูกทำลายเพราะขาดความรู้ เพราะเจ้าปฏิเสธไม่รับความรู้ เราก็ปฏิเสธเจ้าไม่ให้รับเป็นปุโรหิตของเรา เพราะเจ้าหลงลืมพระบัญญัติแห่งพระเจ้าของเจ้า เราก็จะลืมพงศ์พันธุ์ของเจ้าเสียด้วย” ถึงเวลาหรือยังที่คุณจะฟังเสียงของพระเจ้าให้ชัดเจน เพื่อคุณจะสามารถตัดสินใจในทุกๆ เรื่องของชีวิตได้อย่างถูกต้องตามน้ำพระทัยของพระเจ้า และไม่ต้องถูกทำลาย