¹⁵ แทนที่จะพูดเช่นนั้นท่านทั้งหลายควรจะพูดว่า
“ถ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงโปรด เราจะมีชีวิตอยู่ และจะกระทำสิ่งนี้หรือสิ่งนั้น”

Q1  อ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ 2-3 รอบช้าๆ จดจ่ออยู่ที่คำว่า “ถ้าพระเจ้าทรงโปรด” “จะมีชีวิตอยู่” และ “จะทำสิ่งนี้หรือสิ่งนั้น” คำเหล่านี้ทำให้คุณคิดถึงเป้าหมาย หรือแผนการในชีวิตของคุณในอนาคตอย่างไร? ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จ หรือปัญหาก็ตาม ทั้งชีวิตส่วนตัว ชีวิตครอบครัว ชีวิตการทำงาน ชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณ และ ชีวิตการรับใช้
Q2  พระเจ้าทรงมีส่วนในการดำเนินชีวิตของคุณวันนี้ และในแผนการต่างๆ ที่คุณได้วางแผนในอนาคตอย่างไร?

¹⁴ แต่ว่าท่านไม่รู้เรื่องของพรุ่งนี้ ชีวิตของท่านเป็นเช่นใดเล่า
ท่านก็เป็นเช่นหมอกที่ปรากฏอยู่เพียงชั่วครู่แล้วก็หายไป

Q1  อ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ 2-3 รอบช้า ๆ จดจ่อยู่ที่คำว่า “ชีวิต” “ไม่รู้เรื่องของพรุ่งนี้” “เป็นเช่นหมอก” และ “แล้วก็หายไป” คำเหล่านี้ทำให้คุณคิดถึงเป้าหมาย หรือแผนการในชีวิตของคุณในอนาคตอย่างไร? ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จ หรือปัญหาก็ตาม ทั้งชีวิตส่วนตัว ชีวิตครอบครัว ชีวิตการทำงาน ชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณ และ ชีวิตการรับใช้
Q2  ใช้เวลานี้อธิษฐานฝากเป้าหมาย และแผนการต่างๆ ที่คุณมีในอนาคตไว้กับพระเจ้า

¹³ นี่แน่ะท่านที่พูดว่า “วันนี้หรือพรุ่งนี้เราจะเข้าไปในเมืองนี้เมืองนั้น
และจะอยู่ที่นั่นปีหนึ่ง และจะค้าขายได้กำไร”

Q1  อ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ 2-3 รอบช้า ๆ จดจ่ออยู่ที่คำว่า “วันนี้” “พรุ่งนี้” “อยู่ที่นั่น” “ค้าขายได้กำไร” คำเหล่านี้ทำให้คุณคิดถึง สภาพชีวิตของคุณที่เป็นอยู่วันนี้อย่างไร? ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จ หรือปัญหาก็ตาม ทั้งชีวิตส่วนตัว ชีวิตครอบครัว ชีวิตการทำงาน ชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณ และ ชีวิตการรับใช้
Q2  ใช้เวลานี้อธิษฐานขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับเวลานี้ที่ได้หยุดคิด ทำให้ชีวิตช้าลง และได้ใคร่ครวญจริงๆ ว่า “ชีวิตของคุณในวันนี้” เป็นอย่างไร?

สัปดาห์นี้เราจะกลับมาเฝ้าเดี่ยวผ่านวิธีการใคร่ครวญด้วยกัน โดยเราจะพิจารณาเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตท่ามกลางสังคมในปัจจุบันที่มีแต่ความเร่งรีบ และเร่งด่วนในทุกๆ เรื่อง ทำให้มีคนกลุ่มหนึ่งในสังคมออกมาเรียกร้องให้ คนเรามีชีวิตที่ช้าลง หรือที่เรียกกันว่า Slow Life เราจะใคร่ครวญจากพระธรรมยากอบ 4:13-17 ด้วยกัน โดยจะเป็นการคิดถึง Slow Life ที่เกี่ยวกับเป้าหมายชีวิต และชีวิตที่อยู่ภายใต้การดูแลของพระเจ้า

วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน      ยากอบ 4:13-17

ในการใคร่ครวญ คุณจำเป็นจะต้องเข้าใจถึงภาพโดยรวมของพระคัมภีร์ตอนนั้น รวมทั้งมีจิตใจที่สงบ ดังนั้นใช้เวลานี้สงบใจลงต่อพระพักตร์ของพระเจ้า อธิษฐานขอพระเจ้าคุณมีสติ มีความตั้งใจ และมีความจดจ่อต่อพระวจนะของพระเจ้าที่คุณกำลังใคร่ครวญตลอดสัปดาห์นี้

¹³ นี่แน่ะท่านที่พูดว่า “วันนี้หรือพรุ่งนี้เราจะเข้าไปในเมืองนี้เมืองนั้น และจะอยู่ที่นั่นปีหนึ่ง และจะค้าขายได้กำไร”
¹⁴ แต่ว่าท่านไม่รู้เรื่องของพรุ่งนี้ ชีวิตของท่านเป็นเช่นใดเล่า
ท่านก็เป็นเช่นหมอกที่ปรากฏอยู่เพียงชั่วครู่แล้วก็หายไป
¹⁵ แทนที่จะพูดเช่นนั้นท่านทั้งหลายควรจะพูดว่า
“ถ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงโปรด เราจะมีชีวิตอยู่ และจะกระทำสิ่งนี้หรือสิ่งนั้น”
¹⁶ ตามความจริงท่านทั้งหลายโอ้อวดด้วยความทะนงตน การโอ้อวดทุกอย่างเช่นนี้เป็นความชั่ว
¹⁷ เหตุฉะนั้นผู้ใดรู้ว่าอะไรเป็นความดีและไม่ได้กระทำ คนนั้นจึงมีบาป

Q1  อธิษฐาน และอ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ช้าๆ 2-3 รอบ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะได้รับบทเรียนอะไรบ้าง ค่อยๆ ปล่อยให้ความคิดของคุณไหลไปกับพระคำของพระเจ้าที่คุณได้อ่านไป
Q2  อธิษฐานขอบคุณพระเจ้าสำหรับพระคัมภีร์ตอนนี้ และขอพระเจ้าทรงช่วยเหลือคุณในการใคร่ครวญตลอดสัปดาห์นี้

พระเยซูกลับมาพูดถึง “พระวิญญาณแห่งความจริง” หรือ “พระวิญญาณบริสุทธิ์” อีกครั้งหนึ่ง โดยเพิ่มเติมมากขึ้นเกี่ยวกับ “การงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์” ที่จะทรงกระทำในชีวิตของผู้ที่เชื่อทุกคน หลังจากที่พระองค์เสด็จกลับไปอยู่กับพระเจ้าพระบิดาบนแผ่นดินสวรรค์ ก่อนที่จะเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่ง

Q1  พระเยซูได้บอกถึง “การงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์” ในแง่มุมใดบ้าง? (ดูข้อ 8, 13, 14, 15 ประกอบ)
Q2  คุณคิด และรู้สึกอย่างไรเมื่อรู้ว่า ในเวลานี้พระวิญญาณบริสุทธิ์กำลัง “ทำงานอย่างขะมักเขม้น” ในชีวิตของคุณ?