สเทเฟนยืนหยัดในความเชื่อ และพูดในสิ่งที่พระเจ้าบอกให้เขาพูด แม้จะรู้ว่าตัวเองจะต้องตายก็ตาม และจากคำพูดสุดท้ายของเขาที่ว่า “ข้าแต่พระเยซูเจ้า ขอทรงโปรดรับจิตวิญญาณของข้าพระองค์ด้วย” (59) และ “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอโปรดอย่าทรงถือโทษเขาเพราะบาปนี้” (60) สะท้อนให้เห็นความเชื่อของเขาที่มีในพระเจ้าอย่างไร? และคุณจะนำความเชื่อของสเทเฟน มาใช้ในการดำเนินชีวิตคริสเตียนของคุณอย่างไร?

พระเจ้าทรงใช้โมเสสในการปลดปล่อยประชากรของพระองค์ออกจากการเป็นทาสในอียิปต์ แต่สิ่งที่โมเสสมักจะได้รับจากชนชาติอิสราเอลคือ คำบ่น คำต่อว่า และการไม่เชื่อฟัง (35, 39-44) ในการดำเนินชีวิตคริสเตียนไม่ได้ราบเรียบเสมอไป

Read more

พระเจ้าทรงนำอับราฮัม และโยเซฟ ให้เดินทางไกลออกจากบ้านเกิดเมืองนอนของตน โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่า ชีวิตของตนจะจบอย่างไร แต่ทั้งคู่มี “ความเชื่อ” ในพระเจ้า และผลลัพธ์คือ อับราฮัมและโยเซฟเป็นส่วนหนึ่งในแผนการแห่งความรอดของพระเจ้า คุณรู้หรือไม่ว่า คุณก็เป็นส่วนหนึ่งในแผนการของพระเจ้า เป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของพระเจ้า ลองไตร่ตรองดูว่า พระเจ้าจะใช้คุณอย่างไรในแผนการของพระองค์ผ่านครอบครัวของคุณ ผ่านโรงเรียน/ที่ทำงานที่คุณอยู่ ผ่านคริสตจักรที่คุณนมัสการ

จากคำพูดของอัครทูตที่ว่า “…ซึ่งเราจะละเลยพระวจนะของพระเจ้า มัวไปแจกอาหารก็หาควรไม่” (2) ดูเผินๆ เหมือนว่า พวกเขาให้ความสำคัญต่อเรื่องฝ่ายจิตวิญญาณเท่านั้น แต่ถ้าพิจารณาให้ดี เราจะพบว่า พวกอัครทูตไม่ได้มองการดำเนินชีวิตคริสเตียนเป็นเรื่องของความเชื่อ

Read more

“…เพราะว่าถ้าความคิดหรือกิจการนี้มาจากมนุษย์ ก็จะล้มลายไปเอง แต่ถ้ามาจากพระเจ้า ท่านทั้งหลายทำลายเสียก็ไม่ได้ เกลือกว่าท่านกลับจะเป็นผู้สู้รบกับพระเจ้า…” (38-39) นี่เป็นคำพูดของกามาลิเอล ซึ่งเป็นพวกฟาริสีและเป็นบาเรียน เมื่อ 2000 กว่าปีที่แล้ว และพระเจ้าได้ยืนยันความจริงแล้วว่า ข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซูคริสต์ เป็นความจริง เพราะวันนี้ข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซูคริสต์ยังคงอยู่ ความจริงนี้หนุนใจคุณอย่างไรในการดำเนินชีวิตวันนี้ อธิษฐานขอบคุณพระเจ้าสำหรับความจริง และความเชื่อที่คุณมีในพระเยซูคริสต์

9130/9463