วันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม ปฐมกาล 2:18-25 “คู่อุปถัมภ์”
มีคนกล่าวไว้ว่า พระเจ้าไม่ได้สร้างผู้หญิงจากกระดูกหัวแม่เท้า เพื่อจะเป็นทาสรับใช้ของผู้ชาย หรือสร้างผู้หญิงจากกระดูกศีรษะเพื่อจะคอยบงการผู้ชาย แต่สร้างผู้หญิงจากกระดูกซี่โครงที่อยู่ข้างกายและหัวใจของผู้ชาย เพื่อจะยืนเคียงข้าง และเติมเต็มความรักให้แก่กันและกัน
Q1 คุณคิดว่า คำว่า “คู่อุปถัมภ์” ในข้อ 18 มีความหมายว่าอย่างไร?
Q2 วันนี้เป็นวันแม่ ถ้าคุณเป็นลูกใช้เวลานี้ อธิษฐานเผื่อคุณแม่ของคุณ ถ้าคุณแต่งงานแล้ว อธิษฐานเผื่อคู่อุปถัมภ์ของคุณ
วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม ปฐมกาล 1:26-28 “กลับไปจุดเริ่มต้น”
มีแนวความคิดและมีคำสอนในสังคมว่า เพศชายเป็นเพศแห่งความเป็นผู้นำ เป็นเพศแห่งการเป็นผู้ปกครอง โดยอ้างว่า พระเจ้าทรงสร้างผู้ชายขึ้นมาก่อน และสร้างผู้หญิงจากกระดูกซี่โครงของผู้ชาย (ปฐมกาล 2:21-23)
Q1 จากปฐมกาล 1:26-28 คำว่า “มนุษย์” ตรงนี้หมายถึงใคร และ “อำนาจการปกครอง” เป็นของใคร? (ผู้ชาย หรือ ผู้หญิง หรือ ทั้งชายและหญิง)
Q2 ถ้าคุณเป็นผู้ชายความจริงเกี่ยวกับ “มนุษย์” และ “อำนาจการปกครอง” ในพระคัมภีร์ตอนนี้ช่วยให้คุณมีมุมมองต่อผู้หญิงเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง? (ถ้าคุณเป็นผู้หญิง มุมมองต่อตัวคุณเองเปลี่ยนไปอย่างไร?)
วันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม 1 พงศ์กษัตริย์ 12:1-24 “แยกเป็นสอง”
เมื่อเรโหโบอัมขึ้นเป็นกษัตริย์แทนที่ซาโลมอนผู้เป็นบิดา ในเวลานั้นประชาชนต่างเดือดร้อนเพราะเรื่องภาษีที่ถูกเก็บ ประชาชนจึงให้เยโรโบอันเป็นตัวแทนมาขอให้ลดภาษี หรือเว้นการเก็บภาษีชั่วคราว เรโหโบอัมได้ปรึกษากับข้าราชการผู้ใหญ่กับเพื่อนๆ ที่เป็นคนรุ่นเดียวกัน เพื่อจะจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น
Q1 คำปรึกษาของข้าราชการผู้ใหญ่ (ข้อ 7-9) และคำปรึกษาของเพื่อนที่เป็นรุ่นเดียวกัน (ข้อ 10-11) เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร? เรโหโบอันเชื่อคำปรึกษาของใคร และผลที่ตามมาคือ? (ดูข้อ 12-24 ประกอบ)
Q2 สุภาษิต 29:1 กล่าวไว้ว่า “บุคคลที่ถูกตักเตือนบ่อยๆ แต่ยังแข็งคอประเดี๋ยวคอจะหักรักษาไม่ได้” คุณคิดว่า พระเจ้ากำลังเตือนคุณในเรื่องใดบ้าง? อธิษฐานขอพระเจ้าให้คุณจะตอบสนองอย่างถูกต้อง
วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม 1 พงศ์กษัตริย์ 11:1-13 “สติปัญญาและความโง่เขลา”
ใน 1 พงศ์กษัตริย์บทที่ 10 ได้บรรยายถึงสติปัญญาและความมั่งคั่งของซาโลมอนว่า เป็นที่เลื่องลือไปทั่วทุกสารทิศจนราชินีแห่งเชบาต้องเสด็จมาเยี่ยม ทุกๆ ปี ประเทศต่างๆ ต้องส่งทองคำมาเป็นเครื่องบรรณาการจำนวนมาก จนมีคำกล่าว “เงินกลายเป็นของสามัญเป็นเหมือนก้อนหินตามทาง” ซาโลมอนยังมีกองทัพที่แข็งแกร่ง มีรถรบถึง 1,400 คัน มีพลม้าถึง 12,000 คน แต่ดูเหมือนว่า สติปัญญาและความมั่งคั่งของซาโมมอนไม่ได้มีส่วนช่วยหรือป้องกันไม่ให้ซาโลมอนหลงจากทางของพระเจ้าเลย จนพระเจ้าลงโทษด้วยการแยกอาณาจักรเป็น 2 ส่วน (ข้อ 9-13)
Q1 อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ซาโลมอนหลงจากทางของพระเจ้า และไปนมัสการพระอื่น? (ดูข้อ 1-4 ประกอบ)
Q2 คุณจะนำบทเรียนจากชีวิตของซาโลมอนมาใช้ในชีวิตของคุณอย่างไร?
วันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม 2 พงศาวดาร 6:1-7:10 “พระนิเวศของพระเจ้า III”
ซาโลมอนใช้เวลาในการสร้างพระนิเวศของพระเจ้าทั้งหมด 7 ปี (1 พงศ์กษัตริย์ 6:38) ซาโลมอนจัดให้มีการฉลองใหญ่ทั้งอิสราเอล ผู้คนทั้งหลายมารวมตัวกันที่กรุงเยรูซาเล็ม ซาโลมอนเริ่มต้นการฉลองด้วยคำอธิษฐานที่ค่อนข้างยาว แต่เป็นคำอธิษฐานที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะมีการอ้างถึงพันธสัญญาของพระเจ้าในเรื่องพระนิเวศของพระเจ้าตั้งแต่สมัยดาวิด และมาสำเร็จที่สมัยของตัวท่านเอง มีการบรรยายถึงพระลักษณะของพระเจ้า ไม่ว่าจะเป็นความรักอันมั่นคง และความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า รวมทั้งร้องขอพระกรุณาต่อพระเจ้า ถ้าอิสราเอลกระทำชั่วต่อพระองค์ และทันทีที่จบคำอธิษฐานก็มีไฟตกลงมาจากฟ้าสวรรค์เผาเครื่องบูชาที่ได้ตระเตรียมไว้
Q1 อะไรคือเป้าหมายหลักของการสร้างพระนิเวศของพระเจ้า? (ดูข้อ 6:18-21 ประกอบ)
Q2 ซาโลมอนและประชาชนต่างมีความชื่นชมยินดีที่พระนิเวศของพระเจ้าสร้างเสร็จ พวกเขาได้ถวายเครื่องบูชาเป็นวัวถึง 22,000 ตัว และเป็นแกะถึง 120,000 ตัว จนแท่นทองสัมฤทธิ์ไม่พอบรรจุเครื่องเผาบูชา คุณจะนำตัวอย่างของซาโลมอนและประชาชนมาใช้ในชีวิตแห่งการนมัสการ
พระเจ้าของคุณอย่างไร?