ยอห์นได้บอกถึงความจริงอย่างหนึ่งว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะต้อนรับพระเยซูในฐานะขององค์พระผู้เป็นเจ้า ในฐานะของความสว่างของโลก (ข้อ 11) มีบางคนเท่านั้นที่จะต้อนรับพระองค์

Q1  คนที่ต้อนรับพระเยซูในฐานะขององค์พระผู้เป็นเจ้า เป็นความสว่างของชีวิต จะได้รับสิ่งใดเป็นสิ่งตอบแทน? (ดูข้อ 12, 13, 17, 18 ประกอบ)
Q2  คุณได้ให้พระเยซูเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า และเป็นความสว่างในชีวิตของคุณอย่างไร?

ยอห์นได้บันทึกถึงชายอีกคนหนึ่งคือ ยอห์นผู้ให้บัพติสมา เป็นบุตรของเศคาริยาห์ และนางเอลีซาเบธ ซึ่งเกิดมาด้วยการอัศจรรย์ เพราะนางเอลีซาเบธเป็นหมัน และมีอายุมากแล้ว (อ่านเพิ่มเติมได้จาก ลูกา 1:5-25) ยอห์นได้บอกอย่างชัดเจนว่า ยอห์นไม่ได้เกิดมาเพื่อ “เป็นความสว่าง” แต่เกิดมาเพื่อเป็นพยานว่า “ใครคือความสว่าง”

Q1  “ความสว่าง” ที่ยอห์นผู้ให้บัพติสมาเป็นพยาน หมายถึงผู้ใด? (ดูข้อ 14, 17, 18 ประกอบ)
Q2  ชีวิตของคุณ ได้เป็นพยาน และประกาศให้คนรอบๆ ข้างของคุณรู้ว่า พระเยซู เป็นองค์ผู้เป็นเจ้า เป็นความสว่างสำหรับทุกชีวิตอย่างไรบ้าง?

ยอห์นเริ่มต้นด้วยการพูดถึงหลักข้อเชื่อที่สำคัญว่า พระเยซู (พระวาทะ) และได้บรรยายถึงพระลักษณะต่างๆ ของพระเยซู (พระวาทะ) เพื่อจะยืนยันถึงความเป็น “องค์พระผู้เป็นเจ้า” ของพระเยซู

Q1  ยอห์นได้บอกถึงพระลักษณะของพระเยซูที่สำแดงความเป็นพระเจ้าไว้อย่างน้อย 4 ประการคืออะไรบ้าง?
Q2  การที่คุณรู้ว่า “พระเยซู” (พระวาทะ) ทรงเป็น “องค์พระผู้เป็นเจ้า” ช่วยให้คุณมั่นใจในการเป็นสาวก และดำเนินชีวิตที่ติดตามพระองค์ได้อย่างไร?

แน่นอนว่า มารีย์เป็นแม่ และเป็นหญิงที่พระคัมภีร์ได้บอกว่า เป็นสตรีที่ได้รับการโปรดปราน เป็นผู้ที่ได้รับพร เป็นผู้ที่เป็นสุข เพราะเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดพระเยซู แต่ไม่ได้หมายความว่า ชีวิตการเป็นแม่ของเธอจะสะดวกสบาย หรือมีทางลัดในการเลี้ยงดูพระเยซู มารีย์เลี้ยงพระเยซูเหมือนกับที่แม่ทุกๆ คนจะเลี้ยงลูก และดำเนินชีวิตตามปกติเหมือนคนอิสราเอลทั่วๆ ไป รวมถึงการถ่ายทอดความเชื่อให้กับพระเยซูด้วยการพาพระองค์ไปที่กรุงเยรูซาเล็มในช่วงเทศกาลปัสกา

Q1  เมื่อมารีย์รู้ว่า พระเยซูไม่ได้กลับมาที่บ้านพร้อมกับตน มารีย์รู้สึก และตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไร? (ดูข้อ 44, 45, 48, 51 ประกอบ)
Q2  มารีย์เลี้ยงดูพระเยซูให้เติบโตขึ้นทั้งในด้านสติปัญญา ร่างกาย และเป็นที่รักของคนทั่วไป และเป็นที่รักของพระเจ้า (ข้อ 52) ถ้าคุณเป็นแม่ คุณจะเลี้ยงดูให้ลูกของคุณเติบโตขึ้นในทุกๆ ด้าน และเป็นที่รักของคนทั่วๆ ไปและของพระเจ้าอย่างไร? ถ้าคุณเป็นสามี คุณจะมีส่วนร่วมในการเลี้ยงดูลูกอย่างไร? ถ้าคุณเป็นลูก โปรดจำไว้ว่า คุณแม่คุณพ่อมีเป้าหมายที่อยากเห็นคุณเติบโตขึ้นในทุกๆ ด้าน และเป็นที่รักของคนและพระเจ้า หาเวลาที่จะขอบคุณคุณแม่และคุณพ่อของคุณ และอธิษฐานเผื่อท่านอยู่เสมอ

เอลีซาเบธเป็นแม่ของยอห์นผู้ให้รับบัพติสมา เธอเป็นหมัน แต่พระเจ้าทรงเรียกเธอให้เป็น “แม่” เป็นผู้ให้กำเนิดบุตรชาย คือ ยอห์น ผู้ที่จะมาเตรียมทางให้กับพระเยซู ซึ่งการเป็นแม่ของเธอนั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายสักเท่าไรนัก เพราะถ้ามามีลูกเมื่ออายุมากแล้ว (จริงๆ ต้องบอกว่า ชราแล้ว)

Q1  การเป็นแม่เมื่อมีอายุมากไม่ใช่สิ่งที่ง่าย ซึ่งเรารู้ว่าในปัจจุบันทางการแพทย์ไม่สนับสนุนให้มีลูกเมื่ออายุเกิน 40 ปีขึ้นไป เพราะต้องเผชิญกับความเสี่ยงหลายอย่าง แม้ว่านางเอบีซาเบธ ที่ต้องตั้งครรภ์ตามน้ำพระทัยของพระเจ้า แต่ด้วยความที่เป็นมนุษย์ และอายุมาก เธอย่อมมีความกังวลเช่นกัน คุณคิดว่าเอลีซาเบธจะกังวลในเรื่องใดบ้าง เและเธอผ่านพ้นปัญหา ความกังวลเหล่านั้นมาได้อย่างไร? (ดูข้อ 24, 25 ประกอบ)
Q2 ถ้าคุณรู้จักใครที่เป็นคุณแม่ที่มีอายุมาก ใช้เวลานี้อธิษฐานเผื่อคุณแม่ท่านนั้น รวมถึงสามี และทุกๆ คนในครอบครัวที่จะเข้าใจ และมีส่วนร่วมในการเลี้ยงลูกแม้จะมีอายุที่มาก

3185/5064