เรื่องราวของพระเยซูคริสต์ในการประกาศสั่งสอน การอัศจรรย์ในเรื่องการรักษาโรค และการขับผีเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว และเป็นเรื่องที่ถูกนำมาพูดคุยถกเถียงกัน โดยเฉพาะในเรื่องการขับผี (ในวัน   สะบาโต) มีญาติของพระองค์คิดว่า การกระทำของพระเยซูคริสต์เป็นเรื่องที่คนวิกลจริตทำกัน เพราะปกติไม่มีใครรักษาโรคในวันสะบาโต (ข้อ 21) และมีคนกล่าวหาว่า การที่พระเยซูคริสต์ขับผีออกได้ เพราะถูกเบเอลเซบูลซึ่งเป็นนายของผีทั้งปวงเข้าสิง (ข้อ 22)

Q1  จากลักษณะการตอบของพระเยซูคริสต์ในข้อ 23-27 คุณคิดว่า พระเยซูคริสต์เป็นคนที่วิกลจริต หรือ เป็นคนที่ถูกผีสิงและขาดสติในการควบคุมตนหรือไม่? อธิบาย
Q2  บางครั้งการพูด หรือ การวิพากษ์วิจารณ์ โดยไม่มีข้อมูลที่แน่นอน เป็นสิ่งที่น่ากลัวและอันตรายมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพูด หรือวิพากษ์วิจารณ์พระเจ้า โดยเฉพาะน้ำพระทัยและความจริงของพระเจ้าที่ทรงเปิดเผยผ่านทางพระคัมภีร์ อธิษฐานขอให้จิตใจของคุณเปิดออก และยอมรับคำสอนของพระเจ้าในทุกกรณี

พระเยซูคริสต์ทรงเลือกสาวกทั้ง 12 คน โดยมีจุดประสงค์ 3 ประการคือ 1. เพื่อพวกเขาจะอยู่กับพระองค์ (ติดตามอย่างใกล้ชิด) 2.เพื่อใช้พวกเขาไปประกาศ 3. เพื่อให้พวกเขามีสิทธิอำนาจในการรักษาโรค และขับผีได้

Q1  พระเยซูคริสต์ใช้วิธีการอย่างไรในการคัดเลือกสาวกทั้ง 12 คน? (ดูข้อ 13 และลูกา 6:12-13 ประกอบ)
Q2  เมื่อคุณต้องตัดสินใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง คุณจะนำแนวทางในการตัดสินใจเลือกสาวกของพระเยซูคริสต์มาใช้ในชีวิตของคุณอย่างไร?

แม้ว่าพระเยซูคริสต์จะถูกจับผิดในเรื่องของการทำงานในวันสะบาโตในบทที่ 2 ในบทที่ 3:1 ซึ่งอาจจะเป็นวันสะบาโตเดียวกัน พระเยซูคริสต์ก็ยังกระทำในสิ่งที่พระองค์ได้ตรัสไว้ในบทที่ 2:27-28 ที่ว่า “วันสะบาโตนั้นทรงตั้งไว้เพื่อมนุษย์ มิใช่ทรงสร้างมนุษย์ไว้สำหรับวันสะบาโต เหตุฉะนั้นบุตรมนุษย์เป็นเจ้าเป็นนายเหนือวันสะบาโตด้วย” พระเยซูคริสต์ทรงรักษาคนที่มีมือลีบข้างหนึ่งหาย และหลังจากออกจากธรรมศาลา ก็ยังไปรักษาโรคและขับผีให้กับผู้คนอีกเป็นอันมาก

Q1  ในขณะที่พวกฟาริสีซึ่งมีใจแข็งกระด้างมองว่า การทำงานในวันสะบาโตเป็นสิ่งที่ผิดกฎของพระเจ้า โดยไม่มีข้อยกเว้น แต่พระเยซูคริสต์กำลังสอนในอีกมุมมองหนึ่ง แน่นอนว่าพระเยซูคริสต์ไม่ได้สอนผู้คนไม่ให้รักษาวันสะบาโต หรือให้ทำงานในวันสะบาโต แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทุกคนควรจะทำถึงแม้จะเป็นวันสะบาโตก็ตาม สิ่งนั้นคือ? (ดูข้อ 4 ประกอบ)
Q2  คุณคิดว่า อะไรคือ “การดี” ที่พระเจ้าอยากจะให้คุณกระทำในทุกๆ วันของชีวิต?

การรักษาวันสะบาโตเป็นหนึ่งในบัญญัติ 10 ประการที่คนยิวให้ความสำคัญ และรักษากันอย่างเคร่งครัด แต่ธรรมบัญญัติข้อนี้ก็ถูกเพิ่มเติมรายละเอียดเข้าไปอีกมากมายจากการตีความของรับบี (ครูสอนศาสนาของชาวยิว) จนผู้คนในเวลานั้นแทบจะกระทำสิ่งใดไม่ได้เลย และในเหตุการณ์ตอนนี้ พวกฟาริสีก็พยายามจะจับผิดพระเยซูคริสต์ โดยอ้างว่า สาวกของพระองค์ทำผิดในวัน   สะบาโต เพราะเด็ดรวงข้าวกิน

Q1  พระเยซูคริสต์ทรงตอบโต้ข้อกล่าวหาของพวกฟาริสีอย่างไร? (ดูข้อ 25-28 ประกอบ)
Q2  ประโยคที่ว่า “วันสะบาโตนั้นทรงตั้งไว้เพื่อมนุษย์” คุณคิดว่า พระเจ้าทรงตั้งวันสะบาโตไว้สำหรับคุณโดยมีวัตถุประสงค์อะไร?

มาระโกกล่าวถึงการเผชิญหน้าครั้งใหม่ของพระเยซู มีคนเปรียบเทียบว่า ตอนนี้ลูกศิษย์ของยอห์น และลูกศิษย์ของฟาริสีกำลังถืออดอาหาร แต่ลูกศิษย์ของพระเยซูคริสต์ไม่ได้กระทำ (ในเวลานั้นการอดอาหารจะทำในวันที่สอง และวันที่ห้าของสัปดาห์ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ การกระทำเช่นนี้จะทำให้คนที่ถืออดอาหารนั้นมีความน่าเลื่อมใส และชอบธรรมมากกว่าคนอื่น) ซึ่งพระเยซูคริสต์ได้ตอบโดยใช้อุปมาถึง 3 เรื่องคือ 1.เจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าบ่าว 2 ผ้าใหม่ไปปะผ้าเก่า และ 3.น้ำองุ่นหมักใหม่กับถุงหนังเก่า เพื่อจะชี้ให้เห็นว่า เวลาของการถืออดอาหารจะมีแน่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ เพราะการถืออดอาหาร เป็นภาพที่แสดงถึงวาระของความโศกเศร้า

Q1  พระเยซูคริสต์ไม่ได้ต่อต้านเรื่องการถืออาหาร แต่ยังไม่ถึงเวลา ตอนนี้เจ้าบ่าวคือ พระเยซูคริสต์อยู่ที่นี่ เป็นเวลาที่ต้องชื่นชมยินดี เป็นเวลาที่มีความสุขเหมือนกับ การรับประทานอาหารในงานเลี้ยงแต่งงาน เวลาที่ต้องโศกเศร้าคือ “เวลาที่เจ้าบ่าวต้องจากสหายไป” เวลาที่เจ้าบ่าวต้องจากสหายไป หมายถึงเวลาใด?
Q2  ความสุข ความชื่นชมยินดีไม่ได้เกิดขึ้นเพราะการปฏิบัติตามธรรมบัญญัติ แต่เกิดขึ้นเพราะการได้รู้จักและต้อนรับพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดในชีวิต ลองทบทวนชีวิตของคุณว่า วันนี้คุณดำเนินชีวิตแบบไหนอยู่?
หมายเหตุ : # การใช้ผ้าใหม่ปะผ้าเก่า จะทำให้ผ้าเก่าขาด เพราะผ้าใหม่จะหดตัว ในขณะที่ผ้าเก่าไม่หดตัวแล้ว # การหมักน้ำองุ่นใหม่ ต้องใช้ถุงหนังใหม่ เพราะน้ำองุ่นใหม่จะก่อให้เกิดแก๊ส จนทำให้ถุงหนังขยายตัวเต็มที่ และอยู่ตัว ถ้านำน้ำองุ่นใหม่มาใส่ถุงหนังเก่า แก๊สที่เกิดขึ้นจะทำให้ถุงหนังเก่าแตก เพระถุงหนังเก่าไม่สามารถขยายตัวได้อีก

3380/5078