มีคนบอกว่า “ถ้าเราเตรียมงานดีๆ งานก็สำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง” แต่ก็มีบางคนที่หัวหมอ พูดเสริมว่า “งั้นถ้าเราเตรียมงานดีๆ สัก 2 ครั้ง เราก็ไม่ต้องทำอะไรแล้วเพราะงานเสร็จหมดแล้ว” ชีวิตคนเราในปัจจุบันมักจะหาทางออกง่ายๆ โดยไม่คิดจะวางแผนหรือเตรียมการล่วงหน้า เราจะมาดูเรื่องราวของสาวพรหมจารีสิบคนว่า จะสอนอะไรเราในเรื่องนี้บ้าง

Q1  หญิงทั้ง 10 คนต่างเป็นหญิงพรหมจารีเหมือนกัน มีตะเกียงเหมือนกัน แต่มีหญิงแค่ 5 คนที่เตรียมน้ำมันสำรองไปด้วย สิ่งนี้ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างไร? (ดูข้อ 10-11 ประกอบ)
Q2  คุณได้เตรียมชีวิตของคุณอย่างไรบ้างสำหรับอนาคตที่จะมาถึง ไม่ว่าจะเป็นการเรียน / การทำงาน / การแต่งงาน/ การมีลูก / สุขภาพ / ครอบครัว / การรับใช้ / การจากโลกนี้ไป / ชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณ
ปล. เนื้อหาในพระคัมภีร์ตอนนี้สอนถึง การเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อรับการกลับมาของพระเยซู

สังคมในปัจจุบันกำลังสอนเราแต่ละคนให้คิดให้ตัดสินใจบนความรู้สึก และความชอบของตัวเองมากขึ้น โดยไม่สนใจความถูกต้อง หรือข้อตกลงที่ได้เขียนไว้ ทุกอย่างสามารถปรับเปลี่ยนได้ถ้าทำให้เกิดความพึงพอใจ บางทีไม่ได้สิ่งที่หวังก็แสดงออกด้วยการก่อม๊อบ ปิดถนน ทำลายข้าวของ ซึ่งบางคนก็บอกว่า นี่เป็นนิสัยใจคอของคนไทยที่ว่า “ทำอะไรตามใจคือไทยแท้”

Q1  คุณคิดว่า อะไรคือเหตุผลที่ทำให้คนงานคนแรกไม่พอใจเมื่อได้รับค่าแรง? (ดูข้อ 10-14 ประกอบ)
Q2  คุณจะนำบทเรียนจากคนงานคนแรก มาปรับปรุงท่าทีในการทำงานของคุณในแต่ละวันอย่างไร?
ปล. เนื้อหาพระคัมภีร์ตอนนี้สอนถึง การคาดหวังสิ่งตอบแทน จากคำถามของเปโตรในมัทธิว 19:27 โดยพระเยซูเตือนสติพวกเขาว่า ทุกคนจะได้รับชีวิตนิรันดร์อยู่แล้ว แต่ถ้าอยากจะได้มากกว่านี้เป็นสิทธิของพระบิดา ไม่ได้ขึ้นอยู่ว่า ใครทำงานมากน้อยกว่ากัน หรือเป็นสาวกมานานกว่ากัน

เราทุกคนต่างมีแนวความคิด และมาตรฐานในเรื่องของการให้อภัยแตกต่างกันออกไป บางคนคิดว่า ไม่ควรจะให้อภัย บางคนก็คิดว่า ถ้าให้อภัยก็ต้องมีขอบเขตมีการกำหนดครั้งในการให้อภัย เหมือนเปโตรที่บอกว่า 7 ครั้งพอไหม (โดยทั่วไป 3 ครั้งก็ถือว่าดียอดเยี่ยมแล้ว) บางคนก็คิดว่า ให้อภัยเขาวันนี้ วันหน้าถ้าเราทำผิดเขาก็จะให้อภัยเรา วันนี้เราจะมาเรียนรู้กันว่า พระคัมภีร์สอนเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร

Q1  คุณคิดว่า ถ้าพระเยซูต้องการให้มีการให้อภัยแค่ 7×70 = 490 ครั้งเท่านั้น พระองค์จะต้องสอนเป็นคำอุปมาอีกทำไม? อะไรคือความต้องการที่แท้จริงของพระเยซู? (ดูข้อ 32-35 ประกอบ)
Q2  ลองคิดดูว่า การที่คุณไม่สามารถให้อภัยผู้อื่นได้ เป็นเพราะคุณขาด “ใจเมตตา” (ข้อ 27,33) และ “ใจกว้างขวาง” (ข้อ 35) อย่างที่พระเยซูพูดถึงหรือเปล่า? อธิษฐานขอให้คุณมีจิตใจเหมือน “เจ้าองค์นั้น” และ “พระบิดา”

“เพื่อนกินหาง่าย เพื่อนตายหายาก” สำนวนนี้เป็นที่รู้จักในสังคมไทยมาช้านาน แต่ความจริงที่แฝงไว้ยังคงเป็นจริงอยู่ในทุกวันนี้ เพราะสภาพสังคมที่เห็นแก่ตัวมากขึ้น สังคมที่แข่งขันกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ทำให้เรามีเพื่อนที่เป็นเพื่อนจริงๆ เพื่อนที่พร้อมจะเดินไปพร้อมๆ กับเรา เพื่อนที่ไม่ทิ้งกันน้อยลงทุกวัน

Q1  ชาวสะมาเรียได้แสดงให้เห็นถึงลักษณะของเพื่อนที่ดีอย่างไรบ้าง? (ดูข้อ 33, 34, 35 ประกอบ)
Q2  “ท่านจงไปทำเหมือนอย่างนั้นเถิด” คุณจะทำให้คำสั่งของพระเยซูในการเป็นเพื่อนที่ดีเกิดขึ้นในชีวิตของคุณได้อย่างไร

มีบางคนพูดไว้ว่า ถ้าเราติดกระดุมเม็ดแรกผิด กระดุมทุกเม็ดก็จะติดผิดทั้งหมด เช่นเดียวกันหลายครั้งที่ชีวิตของเรามักจะตัดสินใจผิดพลาด โดยที่ไม่รู้ว่า สิ่งใดคือสิ่งที่สำคัญของชีวิตที่เราควรจะเลือก เราจะมาเรียนรู้ด้วยกันจากชีวิตของเศรษฐีโง่คนนี้

Q1  คุณคิดว่า การที่พระเจ้าเรียกเศรษฐีคนนี้ว่า “คนโง่” สมเหตุสมผลหรือไม่? เพราะเหตุใด? (ดูข้อ 18-19 และเปรียบเทียบกับข้อ 20)
Q2  ลองจัดลำดับความสำคัญในชีวิตของคุณว่า สิ่งใดคือสิ่งที่ควรมี สิ่งใดที่สามารถรอได้ และสิ่งใดที่ไม่จำเป็นต้องมี

3815/5082