วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม ยอห์น 8:44 “มารซาตาน – พ่อแห่งการมุสา”
“การโกหก” คือ อาวุธที่สำคัญของมารซาตานในการทำให้ผู้เชื่อเกิดความสงสัยในพระเจ้า และปฏิเสธพระเจ้า โดยพระเยซูคริสต์พูดถึงมารซาตานในยอห์น 8:44 ดังนี้
“ท่านทั้งหลายมาจากพ่อของท่านคือมาร และท่านใคร่จะทำตามความปรารถนาของพ่อท่าน
มันเป็นผู้ฆ่าคนตั้งแต่ปฐมกาล และมิได้ตั้งอยู่ในสัจจะ เพราะมันไม่มีสัจจะ
เมื่อมันพูดเท็จมันก็พูดตามสันดานของมันเอง เพราะมันเป็นผู้มุสาและเป็นพ่อของการมุสา”
Q1 คำว่า “ผู้ฆ่าคน” “ไม่มีสัจจะ” “พูดเท็จ” “ตามสันดาน” และ “เป็นพ่อของการมุสา” ช่วยเราเข้าใจถึงงลักษณะของมารซาตานในแง่มุมนี้มากขึ้นอย่างไร?
Q2 ลองสำรวจชีวิตของคุณโดยเฉพาะในเรื่องของคำพูดว่า วันนี้คุณดำเนินชีวิตแบบที่มีพ่อเป็นพระเจ้า หรือ แบบที่มีพ่อเป็นมาร
วันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม ปฐมกาล 3:1-7 “มารซาตาน – ผู้ล่อลวง”
เรื่องราวของมารซาตานถูกบันทึกไว้ตั้งแต่ในปฐมกาลบทที่ 3 โดยมารซาตานปรากฏตัวในร่างของงู และพูดคุยกับเอวา และอาดัม โดยมีเป้าหมายเพียงอย่างเดียวคือ ล่อลวงให้เอวาและอาดัมเกิดความสงสัย และไม่เชื่อฟังพระเจ้า ซึ่งเป็นความบาป วันนี้เราจะมาดูวิธีการล่อลวงของมารซาตาน
Q1 งู (ซาตาน) ได้ใช้วิธีการอย่างไรในการล่อลวงเอวา? (สังเกตจากคำสนทนาระหว่างงูและเอวาในข้อ 1-5 ประกอบ
Q2 คุณเคยสงสัยในความเชื่อเกี่ยวกับพระเจ้าในเรื่องใดบ้าง และคุณสามารถก้าวข้ามความสงสัยนั้นได้อย่างไร? หรือคุณตกลงในการล่อลวงเหมือนกับเอวาและอาดัม
วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม 2 พงศาวดาร 35:20-27 “สิ้นพระชนม์”
กษัตริย์โยสิยาห์ครองราชย์ประมาณ 30 ปี ก่อนที่จะเสียชีวิตเพราะเนโคกษัตริย์ของอียิปต์ที่ยกกองทัพขึ้นมาช่วยอัสซีเรียต่อสู้กับบาบิโลน ซึ่งเนโคก็ส่งทูตมาบอกกับกษัตริย์โยสิยาห์ว่า ท่านไม่ได้มาต่อสู้ด้วย และเตือนว่า อย่าออกมาทำสงคราม ไม่เช่นนั้นอาจจะเสียชีวิตได้ (ข้อ 21) แต่กษัตริย์โยสิยาห์ไม่ฟัง ปลอมตัวออกมาสู้รบ ผลคือ กษัตริย์โยสิยาห์เสียชีวิต (ข้อ 23-24)
Q1 จากคำว่า “คร่ำครวญ” “จนทุกวันนี้” “ทำให้เป็นกฎหมาย” สะท้อนให้เห็นความรักความผูกพัน ที่เยเรมีย์และชนชาติอิสราเอลมีต่อกษัตริย์โยสิยาห์? (ดูข้อ 24-25 ประกอบ)
Q2 ถ้าวันนี้คุณต้องจากโลกนี้ไปอยู่กับพระเจ้า คุณคิดว่า ผู้คนที่อยู่จะแสดงออกต่อการจากไปของคุณอย่างไร? อธิษฐานของให้ประโยคที่ว่า “อยู่ให้คนรัก จากไปให้คนคิดถึง” เกิดขึ้นจริงในชีวิตของคุณ
วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม 2 พงศาวดาร 35:1-6, 16-19 “ปัสกา”
กษัตริย์โยสิยาห์ไม่เพียงซ่อมแซมพระนิเวศของพระเจ้า และให้มีการอ่านธรรมบัญญัติของพระเจ้าให้ประชาชนทุกคนฟัง พระองค์ยังจัดให้รื้อฟื้นเทศกาลปัสกาขึ้นใหม่ด้วย (ข้อ 19)
หมายเหตุ :- เทศกาลปัสกาเป็นเทศกาลที่ระลึกถึงการช่วยกู้ของพระเจ้าที่ทรงนำชนชาติอิสราเอลหลุดพ้นจากการเป็นทาสในอียิปต์ (อ่าน อพยพ 12 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม)
Q1 พระคัมภีร์ได้บันทึกถึงการถือเทศกาลปัสกาในสมัยของกษัตริย์โยสิยาห์ไว้อย่างไรบ้าง? (ดูข้อ 16, 18 ประกอบ)
Q2 ลองทบทวนชีวิตของคุณว่า พระเจ้าทรงไถ่/ปลดปล่อย/ช่วยกู้คุณจากเรื่องใดบ้างในช่วงที่ผ่านมา ใช้เวลานี้อธิษฐานขอบคุณพระเจ้า
วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฏาคม 2 พงศาวดาร 34:22-33 “หันกลับ”
กษัตริย์โยสิยาห์ไม่เพียงแต่จะพยายามค้นหาความหมายของธรรมบัญญัติที่ได้ยิน ด้วยการไปถามฮุลดาห์หญิงผู้เผยพระวจนะ (ข้อ 22) และเมื่อพระองค์รู้ว่า ตัวพระองค์ บรรพบุรุษของพระองค์ และชนชาติอิสราเอลได้ทำบาปต่อพระเจ้า ด้วยการหันหลังให้พระเจ้า ไปปรนนิบัติพระอื่น รวมทั้งไม่ดำเนินชีวิตตามธรรมบัญญัติ สิ่งที่จะตามมา คือ การลงโทษของพระเจ้า กษัตริย์โยสิยาห์จึงสั่งให้ประชาชนทุกคนมาฟังพระวจนะของพระเจ้า (ข้อ 29-30)
Q1 คำว่า “กระทำพันธสัญญา” “สุดจิตสุดพระทัย” “เอาสิ่งน่าเกลียดน่าชังทั้งปวงออกไป” “ตลอดรัชกาลของพระองค์” ในข้อ 31-33 สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของผู้นำที่ดีของกษัตริย์โยสิยาห์ ในการนำประชาชนให้หันกลับมาหาพระเจ้าผู้เที่ยงแท้อย่างไรบ้าง?
Q2 ทบทวนดูว่า มีความผิดบาปใดในชีวิตของคุณ และคุณจะจัดการกับมันอย่างไร? ถ้าคุณเป็นผู้นำของคริสตจักร คุณจะเป็นแบบอย่าง และมีส่วนในการช่วยเหลือพี่น้องคนอื่นๆ ที่จะหันหลังให้กับความผิดบาป และหันกลับมาติดตามพระเจ้าอย่างไร?