เฝ้าเดี่ยว วันอังคาร 22 มี.ค. เอเสเคียล 3:22-27
พระเจ้าได้ทรงกระทำให้เอเสเคียลเป็น “ยาม” หรือ “ผู้เฝ้าดูชนชาติของพระองค์” การที่พระเจ้าทรงกระทำให้เอเสเคียลเป็นใบ้ และจะพูดได้ก็ต่อเมื่อพระเจ้าพูดกับเขา
เฝ้าเดี่ยว วันจันทร์ 21 มี.ค. เอเสเคียล 3:12-21
ใจของเอเสเคียลขมขื่น เพราะพระเจ้าได้บอกล่วงหน้าแล้วว่า คนอิสราเอลจะไม่ฟังสิ่งที่เขาบอก (เพราะเป็นชนชาติที่มักกบฏ หน้าด้าน และดื้อดึง เอเสเอียล 2:1-10)
เฝ้าเดี่ยว วันอาทิตย์ 20 มี.ค. เอเสเคียล 3:1-11
ในนิมิตพระเจ้าให้เอเสเคียลรับประทานพระวจนะของพระเจ้าก่อนออกไปทำตามคำสั่งของพระเจ้า ในการตักเตือนคนอิสราเอล และเอเสเคียลพบว่า “พระวจนะของพระเจ้าหวานเหมือนน้ำผึ้ง” (ข้อ 3) ความจริงในพระวจนะของพระเจ้า เป็นสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง คนที่ฟังและทำตามก็จะได้พบกับความสุข แต่ผู้ฟังแล้วละเลยก็จะต้องได้รับผลร้ายที่ตามมาเช่นกัน คุณเป็นผู้ที่ฟังและทำตาม หรือผู้ที่ฟังแล้วละเลย?
เฝ้าเดี่ยว วันเสาร์ 19 มี.ค. เอเสเคียล 2:1-10
เอเสเคียลได้รับคำสั่งจากพระเจ้าให้ไปตักเตือนคนอิสราเอล ที่พระเจ้าทรงเรียกพวกเขาว่า “ชนชาติที่มักกบฏ” “หน้าด้าน และดื้อดึง” ลักษณะเหล่านั้นมีอยู่ในตัวคุณหรือไม่? ถ้ามีคุณคิดว่าพระเจ้าจะคิดอย่างไร? และพระองค์มีพระประสงค์จะให้คุณจัดการอย่างไรกับลักษณะเหล่านั้นในชีวิตของคุณ
เฝ้าเดี่ยว วันศุกร์ 18 มี.ค. เอเสเคียล 1:15-28
ข้อที่ 16 และ 18 เป็นภาพที่แสดงให้เห็นถึงพระลักษณะของพระเจ้าที่ทรงสถิตอยู่ทุกหนทุกแห่ง (วงล้อซ้อนในวงล้อ หมายถึงพระบัลลังก์ของพระเจ้าสามารถไปได้ทุกแห่งหนอย่างง่ายดาย) พระเจ้าทรงรอบรู้ทุกอย่าง ทรงเห็นทุกอย่าง และตรวจสอบทุกอย่าง ขอให้คุณใช้เวลานี้ตรวจสอบดูชีวิตของคุณว่า มีอะไรที่คุณกำลังแอบซ่อนจากพระเจ้า หรือมีอะไรที่คุณไม่ยอมจำนนต่อพระองค์ ใช้เวลานี้อธิษฐานมอบชีวิตของคุณไว้กับพระเจ้า