เฝ้าเดี่ยว วันอาทิตย์ 8 พ.ค. เอเสเคียล 37:15-28
“เราจะกระทำพันธสัญญาสันติภาพกับเขา จะเป็นพันธสัญญานิรันดร์แก่เขา และเราจะอวยพรเขาและให้เขาทวีขึ้น และเราจะวางสถานนมัสการของเราไว้ท่ามกลางเขาเป็นนิตย์ ที่อยู่ของเราจะอยู่กับเขา เราจะเป็นพระเจ้าของเขาและเขาจะเป็นประชากรของเรา” (26-27) คิดถึงวันที่คุณต้อนรับพระเยซูคริสต์ วันนั้นเป็นอย่างไรบ้าง? และอธิษฐานขอบคุณพระเจ้าสำหรับการที่พระองค์ทรงเรียกและเลือกเราให้เป็นคริสเตียน ให้เป็นประชากรของพระองค์
เฝ้าเดี่ยว วันเสาร์ 7 พ.ค. เอเสเคียล 37:1-14
คุณรู้จักพระเจ้า และติดตามพระองค์มานานกี่ปีแล้ว ชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณของคุณเป็นอย่างไรบ้าง? ยังเป็นชีวิตที่เป็นเหมือนกับกระดูกแห้งที่บรรยายไว้ในพระคัมภีร์ตอนนี้หรือเปล่า? ถึงเวลาหรือยังที่คุณจะยอมให้พระเจ้าใส่ “ชีวิตและจิตวิญญาณ” บน “กระดูกแห้ง” ของคุณ
เฝ้าเดี่ยว วันศุกร์ 6 พ.ค. เอเสเคียล 36:16-38
อ่านพระคัมภีร์ข้อ 26-27 อีกครั้ง อะไรคือ “ใจหิน” ของคุณที่คุณอยากให้พระเจ้าเอาออกไป? และอะไรคือ “ใจใหม่” ที่คุณอยากให้พระเจ้าใส่เข้ามาในชีวิตของคุณ?
เฝ้าเดี่ยว วันพฤหัสบดี 5 พ.ค. เอเสเคียล 36:1-15
แม้พระเจ้าจงลงโทษอิสราเอลและยูดาห์ด้วยการทำให้พวกเขาสิ้นชาติ ต้องตกเป็นเชลย แต่พระเจ้าทรงสัญญาว่า พระองค์จะพากลับมาเป็นชนชาติอีกครั้งหนึ่ง (8-12) เพราะคัมภีร์ตอนนี้หนุนใจคุณอย่างไรในการดำเนินชีวิตคริสเตียนวันนี้
เฝ้าเดี่ยว วันพุธ 4 พ.ค. เอเสเคียล 35:1-15
เสอีร์เป็นอีกชื่อหนึ่งของเอโดม ผู้ซึ่งมีส่วนร่วมในการทำลายกรุงเยรูซาเล็ม และพวกเขาต่างมีความชื่นชมยินดีที่เห็นกรุงเยรูซาเล็มถูกทำลายให้กลายเป็นที่รกร้างว่างเปล่า แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเยรูซาเล็มก็จะเกิดขึ้นกับเอโดมเช่นกัน เพราะพระเจ้าบอกว่า “เรา พระเจ้า ได้ยินคำหยาบช้าทั้งปวงของเจ้า…” (12) สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่ และพระองค์ทรงสนใจสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราผู้เป็นผู้ที่เชื่อในพระองค์ แม้บางครั้งสถานการณ์รอบข้าง อาจจะไม่เอื้ออำนวยต่อการที่จะยืนหยัดในความเชื่อ แต่จงจำไว้ว่า พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่ และพระองค์ทรงห่วงใยคุณเสมอ ขอพระเจ้าทรงเสริมกำลังคุณในสิ่งที่กำลังเผชิญหน้าอยู่