ในการทำงานทุกๆ ที่ ส่วนใหญ่จะมีคนที่ถูกเรียกว่า “เจ้านาย” / “เจ้าของ”  และ “ลูกน้อง” / “ลูกจ้าง” มีลูกน้องจำนวนไม่น้อยที่มองเจ้านาย /เจ้าของ เหมือนกับยักษ์ ที่เขี้ยวงอกยาว  พูดจานินทาลับหลัง และที่อยู่ยอมทำงานด้วยก็เพื่อจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ หวังโบนัส และรอจังหวะที่จะเปลี่ยนงานใหม่ถ้าได้เงินดีกว่า

Q1  พระคัมภีร์ตอนนี้สอนท่าทีของลูกน้อง / ลูกจ้างที่ควรมีต่อเจ้านาย / เจ้าของอย่างไรบ้าง?
Q2  ถ้าคุณเป็นลูกน้อง / ลูกจ้าง คุณจะนำหลักการนี้ไปใช้ในชีวิตการทำงานอย่างไร? ถ้าคุณเป็นเจ้านาย / เจ้าของ ใช้เวลานี้อธิษฐานเผื่อลูกน้อง / ลูกจ้างของคุณให้มีท่าทีการทำงานเหมือนในพระคัมภีร์

ในโลกของการทำงาน ความสัตย์ซื่อเป็นสิ่งที่หาได้ค่อนข้างยาก เพราะปรัชญาในการทำงานคือ ทำอย่างไรก็ได้ให้ของสามารถขายได้ หรืองานเป็นที่ยอมรับของลูกค้า หรือมียอดขายที่ทะลุเป้าที่วางไว้ การโกหก การบ่ายเบี่ยง การบอกความจริงไม่หมด กลายเป็นเครื่องมือในการที่จะทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จในการงาน

Q1  พระคัมภีร์ตอนนี้ชี้ให้ถึงความแตกต่างและผลลัพธ์ของ “ความสัตย์ซื่อ” และ “การคดโกง” อย่างไร?
Q2  ทบทวนชีวิตของคุณว่า คุณทำงาน / ค้าขาย บนพื้นฐานของ “ความสัตย์ซื่อ” หรือ “การคดโกง”  อธิษฐานขอพระเจ้าเปลี่ยนแปลง และเสริมกำลังของคุณที่จะกล้าแตกต่างจากคนที่ไม่เชื่อพระเจ้า

เราทุกคนคงอยากจะประสบความสำเร็จในการทำงาน /ค้าขาย อยากได้เงินเดือนมากๆ อยากได้โบนัสหลายๆ เดือน อยากได้กำไรเยอะ กษัตริย์ดาวิดก็เป็นคนหนึ่งที่เป็นที่หนึ่งในเรื่องนี้  ถ้าเราจะคิดว่า งานของพระองค์คือ การเป็นกษัตริย์ พระองค์ก็ประสบความสำเร็จในการทำงานเป็นอย่างมาก เพราะความร่ำรวยและความมั่งคั่งของพระองค์นั้นมีอย่างมากมาย

Q1  แม้ว่ากษัตริย์ดาวิดจะประสบความสำเร็จในชีวิต เต็มไปด้วยความมั่งคั่งและเกียรติยศ แต่ท่านมีมุมมองต่อสิ่งของที่มีอยู่อย่างไร?  (ดูข้อ 12, 14, 15, 16 ประกอบ)
Q2  การได้รับเงินเดือนมากๆ ได้โบนัสเยอะๆ หรือได้กำไรมากๆ จากทำงาน และการประสบความสำเร็จในการทำงานไม่ได้เป็นความผิดบาป แต่สิ่งที่เราต้องเรียนรู้ว่า ความสำเร็จและความมั่งคั่งนั้นมาจากใคร และควรถูกใช้เพื่อสิ่งใด อธิษฐานขอให้ความจริงในเรื่องนี้อยู่กับชีวิตการทำงานของคุณ

ความยำเกรงพระเจ้า เป็นบ่อเกิดของความรู้
คนโง่ย่อมดูหมิ่นปัญญาและคำสั่งสอน

Q1  อ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ช้าๆ 2 -3 รอบ คุณคิดว่า “ความยำเกรงพระเจ้า” จะนำมาสู่การมีความรู้ และการมีสติปัญญาได้อย่างไร?
Q2  ผู้เขียนได้สรุปไว้อย่างน่าสนใจว่า คนยำเกรงพระเจ้า จะพบปัญญา แต่คุณโง่จะดูหมิ่นปัญญา (ไม่พบปัญญา) อธิษฐานขอพระคัมภีร์ข้อนี้ที่จะเป็นจริงในชีวิตของคุณ

ทั้งปราชญ์จะได้ยินและเพิ่มพูนการเรียนรู้
และคนที่มีความเข้าใจจะได้ความช่ำชอง
เพื่อให้เข้าใจสุภาษิตและอุปมา
ทั้งถ้อยคำของปราชญ์และปริศนาของเขา

Q1  อ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ช้าๆ 2 -3 รอบ คุณคิดว่า การที่ปราชญ์ (ผู้มีปัญญารอบรู้) ยังต้องเพิ่มพูนการเรียนรู้ ต้องการความเข้าใจ ความช่ำชอง  สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของสติปัญญาอย่างไร?
Q2  คุณจะนำท่าทีของปราชญ์ในการแสวงหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ มาใช้ในชีวิตของคุณในด้านใดบ้าง?

25/46