วันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม ปฐมกาล 16:1-16 “ผู้หญิงที่คิดแทนพระเจ้า”
อับราฮัมและนางซารายเดินทางออกจากบ้านเมืองตามคำสั่งของพระเจ้า (ปฐมกาล 12) และพระเจ้าทรงสัญญาว่า จะให้ทั้งคู่เป็นต้นตระกูลของชนชาติใหญ่ แต่เมื่อต้องรอคอยเป็นเวลานาน นางซารายจึงคิดว่า เธอต้องทำบางอย่างแทนพระเจ้าแล้ว เพราะเธอคิดว่า ตัวเธอเองแก่ชราแล้ว ประจำเดือนก็หมดแล้ว และที่สำคัญเธอรอคอยมากว่า 20 ปีแล้ว
Q1 นางซารายคิดแทนพระเจ้าอย่างไร และผลที่ตามมาคือ? (ดูข้อ 2-4 ประกอบ)
Q2 จากตัวอย่างของนางซาราย และ พระธรรมอิสยาห์ 55:8-9 ที่ว่า “8เพราะความคิดของเราไม่เป็นความคิดของเจ้า ทั้งทางของเจ้าไม่เป็นวิถีของเรา” พระเจ้าตรัสดังนี้ 9“เพราะฟ้าสวรรค์สูงกว่าแผ่นดินโลกฉันใด วิถีของเราสูงกว่าทางของเจ้า และความคิดของเราก็สูงกว่าความคิดของเจ้าฉันนั้น” เตือนสติคุณอย่างไรในการเชื่อฟังพระเจ้า และไม่คิดแทนพระองค์
วันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม 1 ทิโมธี 6:11-21 “คนของพระเจ้า”
เปาโลกลับมาพูดกับทิโมธีอีกครั้ง เป็นการเน้นย้ำให้ทิโมธีรู้ว่า เขาคือ “คนของพระเจ้า” (ข้อ 11) ที่จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับลูกแกะที่เขาดูแลอยู่ ในขณะเดียวกันก็ต้องระมัดระวังคำสอนผิด การล่อลวงต่างๆ ที่จะเข้ามา เพราะเป้าหมายสุดท้ายของคริสเตียนไม่ใช่ชีวิตในโลกนี้ แต่เป็นการได้อยู่ร่วมกับพระเยซูคริสต์เมื่อพระองค์เสด็จกลับมา (ข้อ 14-17)
Q1 อะไรคือสิ่งที่ทิโมธีจะต้องรักษาไว้ (ข้อ 11, 12) และอะไรคือสิ่งที่ทิโมธีจะต้องหลีกเลี่ยง (ข้อ 20-21)?
Q2 “พระเกียรติและฤทธานุภาพอันถาวรจงมีแต่พระองค์นั้น เอเมน” ข้อความนี้จะเป็นจริงในชีวิตของคุณได้อย่างไร?
วันศุกร์ที่ 16 พฤษภาคม 1 ทิโมธี 6:3-10 “ทางของพระเจ้า”
เปาโลกลับมาพูดเรื่องคำสอนเกี่ยวกับการแสวงหาความร่ำรวย และความต้องการฝ่ายเนื้อหนังที่ถูกสอนโดยพวกนอสติกอีกครั้ง โดยเน้นย้ำว่า เป็นการสอนผิดจากทางของพระเจ้า (ข้อ 3)
Q1 เปาโลเปรียบเทียบให้เห็นถึงผลลัพธ์ของความแตกต่างระหว่างทางของพระเจ้า (ข้อ 6, 8) กับคำสอนผิด (ข้อ 4-5, 9, 10) อย่างไร?
Q2 ลองทบทวนชีวิตของคุณว่า วันนี้คุณกำลังดำเนินชีวิตบนเส้นทางของพระเจ้า หรือ ของตัวคุณเอง?
วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม 1 ทิโมธี 5:17- 6:2 “คำครหานินทา”
อีกครั้งที่เปาโลเปลี่ยนหัวข้อมาพูดถึงเรื่องการรับใช้ในคริสตจักร โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้นำ ทั้งตัวของทิโมธี ผู้ปกครอง และมัคนายก ซึ่งควรจะปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากพระเจ้าอย่างสัตย์ซื่อ (5:21) เพื่อไม่ให้เกิดคำครหานินทาได้ หรือแม้แต่คนที่เป็นทาส ก็ไม่ควรจะอาศัยความเป็นพี่น้อง ความเป็นคริสเตียนเพื่อจะเอารัดเอาเปรียบ ไม่ยอมทำงานอย่างเต็มที่ (6:1-2)
Q1 เปาโลได้ให้หลักเกณฑ์อย่างไรเมื่อเกิดคำครหานินทา หรือการกล่าวโทษเกิดขึ้นต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง(โดยเฉพาะกับผู้นำ) ในคริสตจักร? (ดูข้อ 19, 21 ประกอบ)
Q2 ใช้เวลานี้อธิษฐานเผื่อผู้นำของคริสตจักร – อาจารย์ มัคนายก กรรมการดำเนินงานไทย-จีน หัวหน้าแผนกต่างๆ ผู้นำกลุ่มเซล เจ้าหน้าที่สำนักงานคริสตจักร ที่จะไม่ตกเข้าไปในความผิดบาป และตกเข้าสู่การครหานินทา กล่าวร้าย
วันพุธที่ 14 พฤษภาคม 1 ทิโมธี 5:1-16 “คริสตจักร คือ ครอบครัวขยาย”
คริสตจักรเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยผู้คนที่หลากหลายวัยเข้ามาอยู่ด้วยกันทั้งผู้หญิงผู้ชาย ทั้งคนที่สูงวัย และอ่อนเยาว์ คนที่มีฐานะ และไม่มีฐานะ คนที่มีครอบครัว และคนที่ไม่ครอบครัว คนที่แต่งงาน และคนที่ไม่แต่งงาน ฯลฯ ดังนั้นคริสตจักรจึงไม่แตกต่างอะไรกับบ้านหลังใหญ่ที่มีครอบครัวๆ หลายๆ ครอบครัวมาอยู่ด้วยกัน ซึ่งคล้ายกับครอบครัวไทยในอดีตที่เรียกว่า “ครอบครัวขยาย” ซึ่งแน่นอนว่า เมื่อคนมาอยู่ด้วยกันจำนวนมาก ย่อมต้องการการจัดการที่ดี โดยเฉพาะท่าทีในการปฏิสัมพันธ์ การดูแลซึ่งกันและกัน และการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
Q1 จากคำว่า “ขอร้องเสมือน…” (ข้อ1-2) “ให้เกียรติ” (ข้อ 3) “เลี้ยงดู” (ข้อ 8) “ขึ้นทะเบียน” (ข้อ 9) “สงเคราะห์” (ข้อ 16) สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางในการปฏิบัติต่อกันและกัน การดูแลกัน การช่วยเหลือกันและกันในคริสตจักรอย่างไร?
Q2 ลองคิดถึงพี่น้องในคริสตจักรพระคุณว่า มีใครที่คุณรู้จัก และต้องการความช่วยเหลือบ้าง? และคุณจะมีส่วนในการช่วยเหลือพี่น้องเหล่านั้นด้วยท่าทีที่ถูกต้องได้อย่างไร?