คนเรามักจะไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงในชีวิต เพราะนั่นหมายถึง การเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่คุ้นเคย และความไม่แน่นอนว่า อนาคตจะเป็นอย่างไร เปโตรก็เช่นกัน วันที่เขารู้จักพระเยซูคริสต์ เป็นวันที่เขาต้องเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิต

Q1 หลังจากการอัศจรรย์ พระเยซูตรัสแก่ซีโมนว่า “อย่ากลัวเลย ตั้งแต่นี้ไปท่านจะเป็นผู้จับคน” และเมื่อเขานำเรือมาถึงฝั่งแล้ว เขาก็สละสิ่งสารพัดทิ้ง ตามพระองค์ไป” คุณคิดว่า อะไรคือแรงจูงใจ / เหตุผลที่ทำให้เปโตรตัดสินใจติดตามพระเยซูคริสต์?
Q2 ถ้าพระเจ้าเคยเรียกคุณให้ถวายตัวรับใช้พระเจ้าเต็มเวลา อะไรเป็นอุปสรรคในการตัดสินใจถวายตัวของคุณ? ถึงเวลาหรือยังที่คุณจะออกไปจับปลา (ประกาศ)?

เปโตรรู้จักพระเยซูคริสต์ก่อนหน้าที่พระองค์จะขอขึ้นไปบนเรือของเปโตรเพื่อจะเทศนาสั่งสอน เพราะพระองค์ทรงรักษาแม่ยายของเขา (ดูลูกา 4:38-39) และที่ริมทะเลสาบเยนเนซาเรท พระเยซูคริสต์ทรงกระทำการอัศจรรย์ก่อนที่จะเรียกเปโตรกับน้องชายคืออันดรูว์ พร้อมทั้งยากอบกับยอห์นบุตรเศเบดีให้เป็นสาวกติดตามพระองค์

Q1 การที่เปโตรเรียกพระเยซูคริสต์ว่า “พระอาจารย์” และเรียกตัวเองว่า “ข้าพระองค์” ในข้อ 5 แต่ในข้อ 8 เรียกว่า “พระองค์เจ้าข้า (องค์พระผู้เป็นเจ้า)” และแทนตนเองว่า “เป็นคนบาป” เป็นเพราะเหตุใด?
Q2 คุณรู้จักพระเยซูคริสต์ในฐานะของ “อาจารย์” ผู้มีคำสอนดี หรือ “องค์พระผู้เป็นเจ้า” ผู้ทรงกระการดีในชีวิตของคุณ?

มีกฎบัญญัติของพระเจ้าข้อหนึ่งเขียนไว้ว่า “ตาแทนตา ฟันแทนฟัน” เพื่อใช้ในการจัดการดูแลความเรียบร้อยของสังคม เมื่อมีคนกระทำผิดกฎหมาย แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นค่านิยมของสังคมในการดำเนินชีวิตประจำวัน คล้ายๆ กับสังคมไทยที่มีค่านิยมที่ว่า “ทีใคร ทีมัน” หรือ “ทีเอ็งข้าไม่ว่า ทีข้าเอ็งอย่าโวย” ที่สะท้อนให้เห็นถึงการตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เข้ามาในชีวิต โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่คนอื่นมาทำร้ายเรา และเราก็รอคอยเวลาที่จะทำร้ายกลับให้สาสม

Q1 คุณคิดว่า ทำไมพระเยซูคริสต์จึงให้ตอบแทนการร้าย ด้วยการอธิษฐานเผื่อ และทำการดี แถมยังเป็นการดีถึง 2 เท่า? (โดนตบ 2 แก้ม, เสื้อ 2 ตัว, เดิน 2 กิโลเมตร)
Q2 “เหตุฉะนี้ท่านทั้งหลายจงเป็นคนดีรอบคอบ เหมือนอย่างพระบิดาของท่าน ผู้ทรงสถิตในสวรรค์เป็นผู้ดีรอบคอบ” (ข้อ 48) หนุนใจคุณอย่างไรในการดำเนินชีวิตที่จะกระทำการดีในวันนี้

ในสังคมไทยมีสำนวน “ชักแม่น้ำห้าสาย” ซึ่งหมายถึงการพูดจาหว่านล้อม โดยใช้เหตุผลต่างๆ นาๆเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตนเองต้องการ ในสังคมของคนยิวก็มีสิ่งที่คล้ายๆ กันคือ ถ้าต้องการให้ใครเชื่อถือในสิ่งที่ตนเองพูด หรือถ้าต้องการไปให้ถึงจุดหมาย จะมีการใช้คำสาบานต่อพระเจ้ามายืนยันคำพูด ซึ่งผลที่ตามมามักจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่พูดเอง แต่อาจจะไม่ดีหรือไม่มีประโยชน์ต่อคนที่พูดด้วย

Q1 คุณคิดว่า ทำไมพระเยซูคริสต์จึงไม่เห็นด้วยกับการนำคำสาบานมายืนยันคำพูดของตนเอง? (ดูข้อ 36-37 ประกอบ)
Q2 คุณคิดหรือไม่ว่า พูดแล้ว ทำไม่ได้ ไม่เพียงแต่เสียคำพูดเท่านั้น แต่ยังทำให้เรากลายเป็นคนพูดโกหกด้วย อธิษฐานขอพระเจ้าช่วยเหลือคุณในเรื่องคำพูด

ปัจจุบันมีการหย่าร้างเกิดขึ้นมากมายในสังคม โดยสาเหตุใหญ่ๆ ที่คนให้สำหรับการหย่าร้างกันคือ “เราเข้ากันไม่ได้” แล้วก็ไปแต่งงานใหม่ ซึ่งไม่แตกต่างอะไรกับสังคมคนยิวในยุคนั้น ที่อยากจะหย่าก็หย่า แค่เอาความคิดและความรู้สึกของตัวเองเป็นใหญ่ โดยอ้างบทบัญญัติของโมเสสที่อนุญาตให้หย่าได้ แล้วก็แต่งงานใหม่

Q1 ดูเหมือนว่า พระเยซูอนุญาตให้หย่าได้ โดยให้เหตุผลเพียงอย่างเดียวคือ “มีชู้” (ซึ่งหมายความว่า ไม่หย่าก็ได้ เพราะอนุญาตหมายถึง มีสิทธิ์เลือก) แต่ถ้าหย่าด้วยเหตุผลอื่น ใครบ้างที่กระทำบาปในเรื่องการล่วงประเวณี? (ข้อ 32-33)
Q2 อธิษฐานเผื่อพี่น้องที่คุณรู้จักที่กำลังมีปัญหาในครอบครัว และอาจจะจบลงด้วยการหย่าร้าง หรือถ้าคุณมีปัญหาอยู่ระหว่างสามี-ภรรยา อธิษฐานขอพระเจ้าช่วยเหลือคุณที่จะตัดสินใจอย่างถูกต้องในน้ำพระทัยของพระเจ้า

4730/5441