เมื่อเยโฮชาฟัทชื่อฟังพระเจ้า พระเจ้าประทานความสงบให้อิสราเอลรอบด้าน (ข้อ 30) แต่เมื่อท่านไม่เชื่อฟังพระเจ้า รวมมือกับคนที่ชั่วร้าย พระเจ้าก็ทำลายการงานนั้นเช่นกัน (ข้อ 36-37) อธิษฐานขอพระเจ้าที่คุณจะดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมของคนที่ยังไม่เชื่อพระเจ้า โดยที่ไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดบาป แต่จะนำความสงบสุขที่แท้จริง คือ ความรอดในพระเยซูคริสต์ไปถึงคนเหล่านั้นที่คุณรู้จัก อธิษฐานเผื่อวันอาทิตย์นี้ด้วย (30) สำหรับ อ.มะลิ ในการเทศนาประกาศ “สัปดาห์ที่ 5 กับ 4 คนกันเอง”

เมื่อมีภัยมาถึงชนชาติ เป็นภัยที่ร้ายแรง เยโฮชาฟัทในฐานะผู้นำตัดสินใจแสวงหาพระเจ้าและประกาศอดอาหารทั้งชนชาติ คนในชาติก็ลุกขึ้นร่วมมือเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเพื่อแสวงหาพระเจ้า เยโฮชาฟัทก็เป็นผู้นำอธิษฐานวิงวอนเพื่อชนชาติขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า ลองมองดูสังคมในประเทศไทยของเรา ความผิดบาปที่มีมากมาย ทั้งการคอร์รัปชั่น ความรุนแรง การปล้น ฆ่า ข่มขืน การทำแท้ง ยาเสพติด การมัวเมาในวัตถุนิยม ฯลฯ เราอาจะเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ แต่เราอธิษฐานได้ ใช้เวลานี้อธิษฐานเผื่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในสังคมของเรา ประเทศของเรา ขอพระเจ้าเมตตาประเทศไทยด้วย

เยโฮชาฟัทถ่อมใจยอมฟังคำตักเตือนของพระเจ้าที่ผ่านมาทางเยฮู ท่านได้ปรับปรุงแก้ไขตัวเอง รวมทั้งตั้งผู้วินิจฉัยและกำชับให้พวกเขายำเกรงพระเจ้า สัตย์ซื่อ ไม่ลำเอียง ไม่รับสินบน ลองทบทวนดูว่า พระเจ้าได้ตักเตือนคุณในเรื่องใดบ้าง? ขอให้สุภาษิต 29:1 ที่ว่า “บุคคลที่ถูกตักเตือนบ่อยๆ แต่ยังแข็งคอ ประเดี๋ยวคอจะหัก” ช่วยเหลือคุณในการถ่อมใจลง ฟังเสียงพระเจ้าและหันหลังให้กับความผิดบาป

มีคายาห์มีจิตใจที่เกรงกลัวพระเจ้ามากกว่าเกรงกลัวมนุษย์ เขาตัดสินใจที่จะพูดในสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงสำแดงต่อเขา แม้รู้ว่า ถ้าพูดออกไปแล้วจะเป็นผลร้ายต่อตัวเองก็ตาม คุณจะนำแบบอย่างของมีคายาห์ไปใช้ในการดำเนินชีวิตในสังคมที่คุณอยู่ได้อย่างไร? ขอพระนามของพระเจ้าได้รับเกียรติผ่านชีวิตของคุณ

อาหับชอบฟังแต่คำเผยพระวจนะที่รื่นหู ชังคำตักเตือน จะเห็นว่าเขาเป็นคนขาดปัญญา แต่เยโฮชาฟัทมีปัญญาแยกแยะได้ว่าผู้เผยพระวจนะของอาหับนั้นใช้ถ้อยคำหลอกลวง ท่านจึงให้หาผู้เผยพระวจนะของพระเยโฮวาห์แท้จริง ในปัจจุบันมีคำสอนมากมายทั้งในคริสตจักร และนอกคริสตจักรที่ฟังแล้วเราชอบ แต่ไม่ได้หมายความว่า คำสอนเหล่านั้นถูกต้อง อย่าลืมที่จะตรวจสอบคำสอนเหล่านั้นกับพระคัมภีร์ด้วย

4960/5443