ในสมัยของเยเรมีย์เป็นยุคสมัยที่อาณาจักรยูดาห์เสื่อมทรามอย่างถึงที่สุด กษัตริย์และประชาชนต่างหลงเจิ่นไปจากพระเจ้า แม้ว่าจะมีกษัตริย์บางองค์เป็นกษัตริย์ที่ดี กระทำในสิ่งที่พระเจ้าพอพระทัย แต่ก็เป็นช่วงเวลาสั้นๆ พระเจ้ากำลังจะลงโทษยูดาห์ด้วยน้ำมือของกองทัพบาบิโลน ซึ่งเยเรมีย์ต้องร้องไห้เศร้าโศกเสียใจ เมื่อมองดูอาณาจักรยูดาห์ถูกทำลายไปต่อหน้าต่อตา แต่ท่ามกลางความเศร้าโศก เยเรมีย์ก็ยังพูดถึง พันธสัญญาและความหวังในอนาคต

Q1  เยเรมีย์ชี้ให้เห็นถึงพันธสัญญาของพระเจ้าในเรื่องความรักนิรันดร์ของพระเจ้าอย่างไร? (ดูข้อ 1, 4, 5, 6 ประกอบ – สังเกตคำกิริยา)
Q2  การที่คุณรู้ว่า “พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าของคุณ และคุณเป็นประชากรของพระเจ้า” เหมือนที่พระเจ้าบอกกับชนชาติอิสราเอลในข้อ 1 หนุนใจคุณอย่างไรในการเชื่อมั่นในพันธสัญญาแห่งความรักของพระเจ้า (อ่านโรม 8:35-39 ประกอบ)

ก่อนที่โยชูวาจะเสียชีวิต ท่านได้เรียกชนชาติอิสราเอลทั้ง 12 เผ่ามารวมตัวกันที่เชเคม และได้กล่าวถึงความดีงามของพระเจ้าที่ทรงนำชนชาติอิสราเอลออกจากการเป็นทาสในอียิปต์ จนถึงการข้ามแม่น้ำจอร์แดนเข้ามายึดครองแผ่นดินแห่งพันธสัญญา โยชูวาเรียกร้องให้ชนชาติอิสราเอลตัดสินใจกระทำพันธสัญญากับพระเจ้า ที่จะติดตามพระองค์โดยไม่หันไปนมัสการพระอื่น โดยโยชูวายืนยันถึงจุดยืนของตัวท่านว่า “ตัวท่านและครอบครัวของท่าน ทุกคนจะปรนนิบัติพระเจ้า”

Q1  ชนชาติอิสราเอลตอบสนองต่อการเรียกร้องของโยชูวาในการทำพันธสัญญาต่อพระเจ้าอย่างไร? (ดูข้อ 16-18, 21-22 และ 24 ประกอบ)
Q2  การตัดสินใจต้อนรับพระเยซูคริสต์ก็เป็นรูปแบบของการทำพันธสัญญากับพระเจ้ารูปแบบหนึ่ง เป็นการตัดสินใจที่จะติดตามพระเจ้า และไม่หันหลังกลับไปนมัสการพระอื่นๆ คุณยังจำได้ไหมว่า คุณตัดสินใจต้อนรับพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดเมื่อไหร่ ใช้เวลานี้อธิษฐานขอบคุณพระเจ้าที่คุณยังอยู่ในพันธสัญญาแห่งความรอดที่คุณได้กระทำกับพระองค์

โยชูวาก้าวขึ้นมายืนอยู่ในตำแหน่งผู้นำแทนโมเสส ผู้ที่พระคัมภีร์บันทึกว่า เป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่กว่าผู้เผยพระวจนะทุกๆ คน เพราะโมเสสมีโอกาสได้ขึ้นพบปะกับพระเจ้าแบบหน้าต่อหน้าบนภูเขาถึง 40 วัน 40 คืน และทำการอัศจรรย์อย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนในแผ่นดินอียิปต์ จึงไม่เป็นที่น่าแปลกใจถ้าโยชูวาจะรู้สึกกลัว และไม่มั่นใจในการก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำคนใหม่ของอิสราเอล ซึ่งพระเจ้าก็ทรงเข้าใจดีในเรื่องนี้ พระองค์จึงทรงทำพันธสัญญากับโยชูวาก่อนที่เขาจะนำชนชาติอิสราเอลเข้าไปยึดครองแผ่นดินแห่งพันธสัญญา

Q1  พระเจ้าทรงกระทำพันธสัญญากับโยชูวาอย่างไรบ้าง? (ดูข้อ 3, 5, 7, 8, 9 ประกอบ)
Q2  “เราอยู่กับโมเสสมาแล้วฉันใด เราจะอยู่กับเจ้าฉันนั้น เราจะไม่ละเลยหรือละทิ้งเจ้าเสีย จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด” คำพูดของพระเจ้าประโยคนี้ ช่วยให้คุณมีกำลังใจในการดำเนินชีวิตติดตามพระเจ้าอย่างไร?

เป็นอีกครั้งหนึ่งที่พระเจ้าทรงกระทำพันธสัญญากับอับราฮัมในเรื่องของชนชาติใหญ่ ซึ่งเป็นเรื่องที่อับราฮัมกังวลว่า มันจะเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะตัวท่านเองก็มีอายุมากแล้ว และนางซาราห์ก็เป็นหมัน จนท่านเองรู้สึกท้อใจ และคิดว่า ชนชาติใหญ่ที่เกิดขึ้นนั้นจะเป็นของเอลีเยเซอร์ชาวเมืองดามัสกัส (ซึ่งน่าจะเป็นหัวหน้าคนรับใช้ที่ใกล้ชิดที่สุดของอับราฮัม)

Q1  พระเจ้าทรงกระทำสิ่งใดที่ยืนยันว่า ชนชาติใหญ่ของอับราฮัมจะต้องเกิดจากบุตรของนางซาราห์เท่านั้น? (ดูข้อ 4-5ประกอบ)
Q2  อับราฮัมตอบสนองด้วย “ความเชื่อ” ซึ่งเป็นความเชื่อที่ได้อธิบายไว้ในฮีบรู 11:1 ว่า “ความเชื่อคือความแน่ใจในสิ่งที่เราหวังไว้ เป็นความรู้สึกมั่นใจว่า สิ่งที่ยังไม่ได้เห็นนั้นมีจริง” คุณจะทำอย่างไรให้ความเชื่อของคุณเหมือนกับอับราฮัม?

พันธสัญญาที่พระเจ้าทรงกระทำกับอับราฮัมในปฐมกาลเป็นพันธสัญญาที่สำคัญพันธสัญญาหนึ่ง เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของชนชาติของพระเจ้า (ชนชาติอิสราเอล) เป็นจุดเริ่มต้นของพร (ความรอด) ที่จะมาถึงคนทุกชนชาติในโลกนี้

Q1  คุณคิดว่า อับราฮัมตัดสินใจกระทำพันธสัญญากับพระเจ้า เพราะสิ่งที่จะได้รับ (ชนชาติใหญ่ ได้รับพร มีชื่อเสียงใหญ่โต และเป็นพรสำหรับผู้อื่น) หรือ เป็นเพราะผู้ที่ทำพันธสัญญาด้วยคือ พระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ (ตรัสกับเขาโดยตรง)?
Q2  การที่คุณรู้ว่า “พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่” ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของคุณ และการรอคอย
พันธสัญญาของพระเจ้าที่จะสำเร็จในชีวิตของคุณอย่างไร?

3525/5059