มีการคาดเดาว่า เยเรมีย์ถูกเรียกเมื่ออายุประมาณ 17 ปี เยเรมีย์เกิดในตระกูลของปุโรหิต มีพ่อชื่อฮิลคียาห์ซึ่งเป็นหนึ่งในหมู่ปุโรหิต ภายใต้เผ่าเบนยามิน และในพระคัมภีร์ตอนนี้เราได้เห็นถึงการสนทนาระหว่างพระเจ้ากับเยเรมีย์ ซึ่งเป็นการทรงเรียกโดยตรง

Q1  พระเจ้าทรงเรียกและแต่งตั้งให้เยเรมีย์เป็น “ผู้เผยพระวจนะ” ของพระองค์ (ข้อ 5) แต่ดูเหมือนว่าเยเรมีย์ยังไม่พร้อม เยเรมีย์ให้เหตุผลอะไรที่ยังไม่พร้อมจะเป็นผู้เผยพระวจนะของพระองค์? (ดูข้อ 6 ประกอบ)
Q2  “เพราะเราอยู่กับเจ้า จะช่วยกู้เจ้าไว้” หนุนใจคุณอย่างไรในการที่จะประกาศ และการดำเนินชีวิตให้สมกับข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์?

ยูดาลงท้ายในจดหมายของท่านด้วยการฝากพี่น้องที่รักในความเชื่อ ให้อยู่ภายใต้การดูแลของพระเจ้า ผู้เป็นพระเจ้าผู้เที่ยงแท้แต่องค์เดียว และทรงเป็นผู้ทรงโปรดประทานความรอดมายังเราทุกคนผ่านทางพระเยซูคริสต์

Q1  คำว่า “ทรงนำ” “ให้ปราศจากตำหนิ” “มีความร่าเริงยินดี” มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร?
Q2  ทบทวนชีวิตของคุณว่า วันนี้คุณจะให้พระเจ้าทรงนำชีวิตของคุณในเรื่องใดบ้าง?

ยูดาได้ยกคำพยากรณ์ที่ได้ถูกกล่าวไว้โดยพวกอัครทูตว่า จะมีการล่อลวงเกิดขึ้น ผู้คนจะหลงไป และดำเนินชีวิตตามใจตนเอง ลุ่มหลงอยู่ในความผิดบาป และไม่สนใจเรื่องของจิตวิญญาณอีกต่อไป

Q1  ยูดาได้ให้คำแนะนำในการที่จะไม่ถูกล่อลวงให้หลงไปจากความเชื่อ ด้วย “7 จง…” คือ? (ดูข้อ 20, 21, 22, 23 ประกอบ)
Q2  คุณจะนำทั้ง “7 จง” มาใช้ในการป้องกันไม่ให้คุณหลงหายไปจากทางของพระเจ้าได้อย่างไร?

ยูดาได้ยกคำพูดของเอโนค ซึ่งเป็นบุตรชายของเสท ผู้ซึ่งดำเนินชีวิตกับพระเจ้ากว่า 300 ปี จนพระเจ้าทรงรับท่านขึ้นไปอยู่กับพระองค์ (ปฐมกาล 5:18, 21-24) และพูดถึงเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม พระเจ้าจะเสด็จมาพิพากษาโลกใบนี้ และคนที่ไม่เชื่อพระองค์จะต้องถูกลงโทษ

Q1  ยูดาห์ได้บรรยายลักษณะชีวิตของคนที่หลอกลวง ในสังคมของท่านในเวลานั้นอย่างไรบ้าง? (ดูข้อ 16 ประกอบ)
Q2  อ่านลักษณะชีวิตของคนที่หลอกลวงในข้อ 16 อีกครั้ง และลองทบทวนชีวิตของคุณว่า มีลักษณะใดบ้างที่ยังมีอยู่ในชีวิตของคุณ อธิษฐานขอกำลังจากพระเจ้าที่คุณจะไม่มีลักษณะชีวิตเหมือนกับคนเหล่านั้นที่ไม่เชื่อพระเจ้า เพราะวันนี้พระเจ้ากำลังสร้างชีวิตของคุณขึ้นมาใหม่แล้ว เหมือนใน
2 โครินธิ์ 5:17 ที่ว่า “เหตุฉะนั้นถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ ผู้นั้นก็เป็นคนที่ถูกสร้างใหม่แล้ว สิ่งสารพัดที่เก่าๆ ก็ล่วงไป นี่แน่ะกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งนั้น

ยูดาได้อธิบายและให้นิยามคนที่เข้ามาหลอกลวงพี่น้องคริสเตียนว่า “เป็นพวกที่เพ้อฝัน” (ข้อ 8) “เป็นผู้ที่ก้าวร้าวไม่มีความเข้าใจ” (ข้อ 10) “เป็นเหมือนกับสัตว์เดียรัจฉาน” (ข้อ 10) “เป็นเหมือนหินโสโครก” (ข้อ 12) “เป็นคนเลี้ยงแกะที่เลี้ยงแต่ตัวเอง” (ข้อ 12) “เป็นเมฆที่ไม่มีน้ำ” (ข้อ 12) “เป็นต้นไม้ที่ไร้ผล เมื่อต้องออกผล” (ข้อ 12) “เป็นคลื่นอันร้ายแรง” (ข้อ 13) “เป็นดาวที่พลัดออกนอกวงโคจร” (ข้อ 13) และ “เป็นผู้ที่อยู่ในความมืดทึบตลอดกาล” (ข้อ 13)

Q1  คุณคิดว่า ทำไมยูดาจึงเปรียบเทียบคนสอนผิดด้วยคำนิยามที่รุนแรงเป็นอย่างมาก?
Q2  เวลาที่คุณได้ยินคำสอนผิดเกี่ยวกับพระเจ้า เกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ เกี่ยวกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ หรือเกี่ยวกับความเชื่อของคริสเตียน คุณตอบสนองอย่างไร? เหมือนหรือแตกต่างจากการตอบสนองของยูดา?

3420/5083