วันอังคารที่ 8 เมษายน มาระโก 4:1-2 “พระเยซู – ครูผู้สอนด้วยเรื่องเล่า”
มีคนเคยกล่าวไว้ว่า พระเยซูคริสต์ทรงเป็นครูที่เก่ง เพราะพระองค์สามารถใช้สิ่งที่อยู่รอบๆ ข้างที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน มาเล่าเรื่องเปรียบเทียบเป็นคำอุปมา เพื่อจะสอนให้ประชาชนได้เข้าใจถึงสิ่งที่ยากจะเข้าใจ โดยเฉพาะเรื่องราวฝ่ายจิตวิญญาณ ในขณะเดียวกันก็ป้องกันคนบางคนไม่ให้เข้าใจผิดด้วย (ข้อ 12)
Q1 คุณคิดว่า อะไรคือเหตุผลที่พระเยซูคริสต์เลือกที่จะสอนผู้คนโดยใช้เรื่องเล่า? (ดูข้อ 9, 10, 11 ประกอบ)
Q2 คุณว่า พระเยซูคริสต์กำลังสอนอะไรคุณเมื่อพระองค์บอกว่า “ใครมีหู จงฟังเถิด”?
วันจันทร์ที่ 7 เมษายน ลูกา 5:27-32 “พระเยซู – ผู้สร้างความประหลาดใจ”
คนจำนวนไม่น้อยที่คิดว่า พระเจ้าทรงรักแต่คนที่ดีๆ คนที่ทำในสิ่งที่ถูกต้อง และคนที่ไปคริสตจักรได้ต้องเป็นคนที่เลิก ละทิ้งแล้วในสิ่งที่ไม่ดี ซึ่งคนอิสราเอลในยุคของพระเยซูคริสต์ก็มีความคิดอย่างนี้เช่นกัน พวกเขาคิดว่า ตัวเองเท่านั้นที่เป็นชนชาติของพระเจ้า และคนที่ทำผิดกฎบัญญัติของโมเสสก็เป็นคนที่พระเจ้ารังเกียจ ซึ่งมีคนหลายกลุ่มในสังคมยุคนั้นรังเกียจ เช่น คนเก็บภาษี หญิงโสเภณี คนโรคเรื้อน คนต่างด้าว เป็นต้น และสังคมมองคนเหล่านี้ว่าเป็นคนบาป แต่พระเยซูคริสต์ทรงทำให้คนในยุคนั้นประหลาดใจ…
Q1 คุณคิดว่าระหว่างการกระทำของพระเยซูคริสต์ในข้อ 27, 29, 30 กับความคิดเบื้องหลังการกระทำในข้อ 31 สิ่งใดที่ทำให้ผู้คนประหลาดใจ?
Q2 คุณจะนำความคิดของพระเยซูในข้อ 31 มาใช้ในชีวิตของคุณ และทำให้เกิดความประหลาดใจกับคนที่อยู่รอบๆ ข้างได้อย่างไร?
วันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน มาระโก 1:1-11 “พระเยซู – พระบุตรของพระเจ้า”
คนทั่วๆ ไปอาจจะรู้จักพระเยซูคริสต์ในฐานะของศาสดา หรือผู้นำของศาสนาคริสต์ และมีแนวความคิดว่า พระเยซูคริสต์ทรงเป็นคนที่ดีคนหนึ่ง ที่มีสติปัญญาและมีคำสอนที่น่าสนใจ แม้แต่คนที่เกิดในยุคเดียวกับพระเยซูคริสต์ก็ยังคิดว่า พระเยซูคริสต์ก็เป็นเพียงผู้เผยพระวจนะคนหนึ่ง ที่เป็นส่วนหนึ่งในแผนการของพระเจ้า แต่มีคนหนึ่งที่คิดแตกต่างออกไป คนนั้นคือ “มาระโก” เราจะมาดูกันว่า เขารู้จักพระเยซูคริสต์แบบไหน…
Q1 พระเยซูคริสต์ทรงเป็นผู้ใดในสายตาของมาระโก? (ดูข้อ 1, 7, 8, 11 ประกอบ)
Q2 มาระโกมีความชัดเจนในการที่จะพูดว่า พระเยซูคริสต์คือใครในชีวิตของเขา ลองทบทวนชีวิตของคุณว่า พระเยซูคริสต์ทรงเป็นผู้ใดในสายตา และในชีวิตของคุณ? คุณสามารถยืนยันให้คนอื่นรับรู้ได้หรือไม่ว่า พระเยซูคริสต์ทรงเป็นใครในชีวิตของคุณ?
วันเสาร์ที่ 5 เมษายน ฟีลิปปี 4:4-7 “เกินเข้าใจ”
สำหรับคริสเตียน เราถูกสอนให้อธิษฐานในทุกๆ เรื่องกับพระเจ้า แต่หลายๆ ครั้งเราลืมที่สอนกันและกันให้ยอมรับคำตอบที่มาจากพระเจ้าในทุกๆ คำตอบเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นคำตอบว่า “รอก่อน” “ไม่ได้” และ “ได้”
Q1 เมื่อเราอธิษฐาน ไม่เพียงแต่เราจะได้รับคำตอบจากพระเจ้า (“รอ” “ไม่ได้” หรือ “ได้”) ยังมีอีกสิ่งที่จะเกิดขึ้นเสมอไม่ว่าคำตอบที่เราได้รับจะถูกใจเราหรือไม่ก็ตาม สิ่งนั้นคือ? (ดูข้อ 7 ประกอบ)
Q2 อ่านพระคัมภีร์ข้อ 7 อีกครั้งสัก 2-3 รอบช้าๆ และใช้เวลานี้อธิษฐานกับพระเจ้าอีกครั้งในสิ่งที่คุณกำลังกังวลและไม่ได้รับคำตอบจากพระเจ้าสักที
วันศุกร์ที่ 4 เมษายน 2 โครินธ์ 12:1-10 “ไม่”
เปาโลเป็นหนึ่งในอัครทูตที่มีบทบาทสำคัญมากในคริสตจักรยุคแรก ท่านได้รับการทรงเรียกโดยตรงจากพระเยซูคริสต์ และได้รับมอบหมายให้ประกาศกับคนต่างชาติ (กิจการ 9) เปาโลได้รับสิทธิพิเศษจากพระเจ้าในการที่ถูกรับขึ้นไปยังสวรรค์ชั้นที่ 3 เพื่อจะได้เห็นและได้ยินบางสิ่งบางอย่าง แต่ตัวท่านเองไม่ได้ถูกอนุญาตให้เล่าเรื่องราวเหล่านั้น (ข้อ 1-5)
Q1 เปาโลได้บอกว่า ท่านมีหนามใหญ่ในเนื้อ ซึ่งเป็นความอ่อนแอของท่าน (ข้อ 7) ท่านได้อธิษฐานขอให้พระเจ้ารักษาถึง 3 ครั้ง (ข้อ 8) แต่พระเจ้าก็ไม่รักษาท่าน พระเจ้าได้ให้เหตุผลในการที่ไม่รักษาเปาโลไว้อย่างไรบ้าง? (ดูข้อ 7, 9 ประกอบ)
Q2 มีประโยคที่ว่า “การที่มีคุณของเราก็พอแก่เจ้าแล้ว เพราะความอ่อนแอมีที่ไหน เดชของเราก็มีฤทธิ์ขึ้นเต็มขนาดที่นั่น” ช่วยให้คุณเข้าใจและยอมรับคำอธิษฐานของคุณที่ไม่มีคำตอบจากพระเจ้าได้อย่างไร?