ในวงการกีฬามีคำกล่าวไว้ว่า “การเป็นแชมป์ไม่ใช่เรื่องที่ยาก แต่เรื่องที่ยากกว่าคือ การรักษาแชมป์”เช่นเดียวกับการเป็นคริสเตียน ที่เราไม่ต้องเสียอะไรเลยในการเป็นคริสเตียน แต่เราอาจจะต้องยอมสูญเสียทุกสิ่งเพื่อรักษาการดำเนินแบบชีวิตคริสเตียน และยืนหยัดอยู่ในความเชื่อ ซึ่งถ้าอาศัยสติปัญญาและกำลังของตัวเราเอง คงจะเป็นไปได้

Q1  ดูเหมือนว่า เปาโลเองก็ใช้กำลังของท่านเองในการรักษาความเชื่อและการดำเนินชีวิตคริสเตียน เพราะท่านใช้คำว่า “ลืมสิ่งที่ผ่านมา” “บากบั่นมุ่งไป” “โน้มตัวไปข้างหน้า” “ฉวยไว้เป็นของตน” แต่จากประโยคที่ว่า “อย่างที่พระเยซูคริสต์ได้ทรงฉวยข้าพเจ้าไว้เป็นของพระองค์” และ “ได้ทรงเรียกจากเบื้องบนให้เราไปรับ” สะท้อนให้เห็นว่า พระเยซูคริสต์มีส่วนในชีวิตที่เติบโตของเปาโลอย่างไร?
Q2  จากข้อ 16 ที่ว่า “แต่เราได้แค่ไหนแล้ว ก็ให้เราดำเนินตรงตามนั้นต่อไป” ในเส้นทางชีวิตแห่งความเชื่อของคุณ คุณอยู่ใกล้หรือไกลจากเส้นชัยมากน้อยแค่ไหน?

ดูเหมือนว่าในเมืองฟีลิปปีจะมีคำสอนผิดของกลุ่มที่เรียกกันว่า “พวกถือธรรมเนียมยิว” (Judaizers) โดยคนพวกนี้กลับใจเชื่อต้อนรับพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอด แต่พยายามที่จะสอดแทรกคำสอนของพวกยิวเข้าไปด้วย โดยสอนว่า นอกจากจะรอดด้วยการเชื่อในพระเยซูคริสต์แล้ว จะต้องถือธรรมเนียมปฏิบัติของคนยิวด้วย โดยเฉพาะการเข้าสุหนัต (ข้อ 2) และสอนว่าการที่เป็นคนยิวและเป็นคริสเตียนนั้นพิเศษว่าคนต่างชาติที่เป็นคริสเตียน ซึ่งเปาโลได้ตอบโต้คนกลุ่มนี้อย่างรุนแรงและตรงไปตรงมาว่า เป็นพวกสุนัข และคนที่ทำชั่ว

Q1  คุณคิดว่า ทำไมเปาโลจึงบอกว่าเนื้อหนังที่ท่านมี (ข้อ 5-6) เป็นเหมือนสิ่งที่ไร้ประโยชน์ เป็นเหมือนหยากเยื่อ (ข้อ 8) เมื่อเทียบกับการรู้จักกับพระเยซูคริสต์?
Q2  เปาโลอยากรู้จักกับพระเยซูคริสต์ มีประสบการณ์ในฤทธิ์เดช และร่วมทุกข์กับพระเยซูคริสต์ในทุกๆ ด้าน และตัวคุณอยากรู้จักพระเยซูคริสต์ในด้านใดบ้าง? อธิษฐานทูลขอกับพระองค์

เปาโลได้เอ่ยถึงทิโมธี และเอปาโฟรดิทัส สั้นๆ ในพระคัมภีร์ตอนนี้ โดยบอกว่า ทั้งสองคนนี้จะกลับไปหาพวกพี่น้องที่เมืองฟีลิปปีในไม่ช้า โดยเปาโลได้เปรียบทิโมธีเหมือนเป็นบุตร และเป็นเพื่อนผู้รับใช้ และเปรียบเอปาโฟรดิทัสเหมือนกับเพื่อนร่วมงาน และเพื่อนทหาร ในการประกาศข่าวประเสริฐเรื่องราวของพระเยซูคริสต์

Q1  เปาโลอธิบายคุณลักษณะเด่นของทิโมธี (ข้อ 20-22) และเอปาโฟดิทัส (ข้อ 25-26, 30) อย่างไรบ้าง?
Q2  คุณจะเตรียมชีวิตของคุณอย่างไรในวันนี้ เพื่อคุณจะเป็น “ทิโมธี”หรือ “เอปาโฟดิทัส” ในวันหน้า?

อย่างที่เรารู้กันอยู่แล้วว่า การกลับใจต้อนรับพระเยซูคริสต์ หรือการเป็นคริสเตียนไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นเหมือนกับบันไดก้าวแรกที่เราจะเดินต่อไปกับพระเจ้าในชีวิตใหม่ ในบทบาทใหม่ ในความรับผิดชอบ จนกว่าจะถึงวันที่เราจากโลกใบนี้ไป หรือถึงวันที่พระเยซูคริสต์เสด็จกลับมา

Q1  คุณคิดว่า จากวลีที่ว่า “อุตส่าห์ประพฤติ” “เกรงกลัวและตัวสั่น” “ยิ่งประพฤติ” “ปราศจากการบ่นและการทุ่มเถียงกัน” “ดุจดวงสว่าง” “มีที่อวด” “ไม่ได้วิ่งเปล่าๆ” เปาโลให้ความสำคัญกับการดำเนินชีวิตคริสเตียนจนกว่าจะถึงวันของพระคริสต์ (ข้อ 16) อย่างไรบ้าง?
Q2  คุณได้ให้ความสำคัญในการดำเนินชีวิตของคุณในฐานะคริสเตียนมากน้อยแค่ไหน? คุณ “เป็น” ดุจดวงสว่าง หรือ คุณ “เคยเป็น”ดุจดวงสว่าง?

เปาโลได้ยกตัวอย่างของพระเยซูคริสต์ที่ “ถ่อมใจ” และ “ยอมเชื่อฟัง” พระเจ้าบิดาตั้งแต่เกิด จนถึงตาย เพื่อกระทำให้น้ำพระทัยของพระเจ้าในเรื่องความรอดสำเร็จ

Q1  อะไรคือผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจาก “การถ่อมใจ” และ “การยอมเชื่อฟัง” ของพระเยซูคริสต์? (ดูข้อ 9-11 ประกอบ)
Q2  อะไรคือผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจาก “การถ่อมใจ” และ “การยอมเชื่อฟัง” พระเจ้าในชีวิตของคุณ?

4230/5067